รีวิวทดลองขับ Toyota Corolla Cross HEV Premium

รีวิวทดลองขับ Toyota Corolla Cross HEV Premium

จากกระแสรถไฟฟ้าเข้ามาตีตลาดบ้านไม่ว่าจะเป็นด้วยราคารูปทรงของรถหรือจะเป็นโปรโมชั่น ที่ลดแลกแจกแถมกันอย่างมากมาย แต่ลืมกันไปหรือเปล่าว่าก่อนหน้านี้เราใช้รถน้ำมันกันมาอย่างยาวนาน การนำรถน้ำมันและรถไฟฟ้ามารวมกันจนเกิดเป็น รถยนต์ไฮบริดToyota Corolla Cross Premium ได้มีการไมเนอร์เชนจ์ใหม่ จากรุ่นเดิมที่ได้ทำการเปิดตัวไปเดือนกรกฎาคม ปี 2563 โดยมียอดขายที่ดีมาตลอด ทางโตโยต้าจึงได้มีการปรับเปลี่ยนปรับโฉมออกมาเป็น Toyota Corolla Cross ใหม่

โคโรลล่า ครอส ใหม่ มีการปรับปรุงในทุกรุ่นย่อย เพื่อมอบประสบการณ์ในการขับเคลื่อนที่ดียิ่งกว่า ด้วยดีไซน์กระจังหน้าแบบ “Multi-Dimensional Design” ไฟหน้าใหม่ แบบ LED Crystalized Headlamp ไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ Sequential ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone ปรับอุณหภูมิซ้าย-ขวาอิสระ ทั้งยังมาพร้อมกับการรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ด้วย หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว แบบ HD ที่รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และช่องต่อ USB แบบ type C รวมถึงเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM และช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA, ระบบช่วยเตือนขณะจอดรถ พร้อมช่วยเบรกอัตโนมัติ Parking Support Brake, ระบบแจ้งเตือนเมื่อลมยางผิดปกติ Tire Pressure Monitoring System, กล้องมองรอบคัน Panoramic View Monitor (PVM) 360° View, สัญญาณเตือนกะระยะ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง, กล้องวิดีโอบันทึกภาพติดรถยนต์ รวมทั้ง ระบบเบรกมือไฟฟ้า Electronic Parking Brake และระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ Auto Brake Hold 

ในปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยต้องเผชิญความยากลำบากและการเปลี่ยนแปลงมากมาย ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยลดลง 9% โดยเฉพาะเซกเมนต์รถกระบะที่ลดลงถึง 32% ในขณะที่ค่ายผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศจีนได้เข้าสู่ตลาด และมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นจาก 5% ถึง 11% ซึ่งภายใต้ส่วนแบ่งตลาดดังกล่าว สัดส่วนการขายของรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) เติบโตขึ้นจาก 1% เป็น 10% อย่างไรก็ตาม ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว โตโยต้ายังคงมีรถหลายรุ่น ได้แก่ คัมรี ฟอร์จูนเนอร์ เวลอซ และไฮเอซ ที่เป็นผู้นำในเซกเมนต์ต่างๆ นอกจากนั้น ยาริสและเอทีฟก็สามารถครองตำแหน่งยอดขายอันดับหนึ่งในเซกเมนต์อีโคคาร์ด้วยส่วนแบ่งตลาด 45% สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของเรา สำหรับเซกเมนต์รถเอนกประสงค์ SUV       โตโยต้ากลับมาครองยอดขายสูงสุดในไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมาหลังจากการแนะนำยาริส ครอส รวมถึง รถกระบะไฮลักซ์ รีโว่ ที่มีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 40% เป็นสัดส่วนที่สูงสุดนับตั้งแต่ พ.ศ. 2554 เป็นต้นมา ทั้งหมดนี้ ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดของโตโยต้าอยู่ที่ 34.3% สูงที่สุดนับตั้งแต่พ.ศ. 2558 และสูงกว่า พ.ศ. 2565 ที่ 0.3%

อีกทั้งส่วนแบ่งตลาดของรถยนต์ไฟฟ้าประเภท BEV ในประเทศไทยได้เติบโตแบบก้าวกระโดด  อย่างไรก็ตาม ส่วนแบ่งตลาดของรถยนต์ไฮบริด (HEV) ก็เติบโตขึ้น และยังกลายเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งของลูกค้าชาวไทย สำหรับประเภทรถยนต์ขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า ด้วยเหตุผลที่สามารถใช้งานได้จริงอย่างเหมาะสม ลูกค้ามีความอุ่นใจขณะใช้งาน และมีค่าบำรุงรักษาต่ำ  รวมไปถึงมีมูลค่าในการขายต่อที่ดี โดยในปีที่แล้ว ส่วนแบ่งตลาดของรถไฮบริด อยู่ที่มากกว่า 12% และในไตรมาสที่ 4 อยู่ที่ 17% รวมถึงกระแสความนิยมในรถยนต์ประเภท SUV ที่เติบโตขึ้นโดยมีส่วนแบ่งตลาดของ SUV เพิ่มขึ้น 38% แม้ว่าตลาดรถยนต์รวมจะหดตัวลง 9% ทั้งนี้เนื่องมาจากประโยชน์ใช้สอยของรถ SUV นั่นเอง 

สำหรับรุ่นที่มารีวิวกันในวันนี้ก็คือ Toyota Corolla Cross Premium มาด้วยราคา 1,094,000 บาท โดยรุ่นนี้จะมีการปรับเปลี่ยนโฉมให้ดูปราดเปรียวมากยิ่งขึ้น เริ่มด้วยการออกแบบกระจังหน้าใหม่แบบ Multi-Dimensional Design ไฟหน้าใหม่ เป็นแบบ LED Crystalized Headlamp และ ไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ Sequential หลังคา Panoramic Roof แบบ Frameless พร้อมม่านบังแดดปรับไฟฟ้า ( มีเฉพาะในรุ่น HEV Premium Luxury ) ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว ปัดเงาสีทูโทน 

Toyota Corolla Cross Premium เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ รหัสเครื่องยนต์ 2ZR-FXE ความจุ 1.8 ลิตร 1,798 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดเครื่องยนต์ 142 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600 รอบต่อนาที และเมื่อทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าจะให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ E-CVT เพิ่มความสนุกในการขับขี่มาด้วยกัน 3 โหมด ได้แก่ ECO Mode / EV Mode / Power Mode สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจผู้ขับขี่ เบาะนั่งสำหรับผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ Dual-zone แยกปรับอุณหภูมิซ้าย-ขวา 

ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยโทนสีดำ คอนโซลกลาง ตกแต่งด้วยวัสดุ สีดำเงา หน้าจออินโฟเทนเมนท์แบบสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว รองรับได้ทั้ง Apple Carplay และ Android Auto มีช่องสำหรับใช้งานได้ทั้งแบบ USB และ Type-C 

ด้านระบบความปลอดภัยของรถ 

  • ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning) จะมีเสียงดังขึ้นเมื่อรถออกนอกเลนขณะกำลังขับขี่ 
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ แบบแปรผัน DRC (Dynamic Radar Cruise Control) แบบ All-Speed Stop & Go โดยรถจะจับจับสัญญานด้วยเรดาร์จากรถคันหน้าของเรา 
  • ระบบประคองรถให้อยู่ในช่องจราจร LTA ( Lane Tracing Assist ) 
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ AHBC (Automatic High Beam Control)

เรื่องเล่าหลังขับ 

หลังจากที่ได้ทำความรู้จัก Toyota Corolla Cross กันพอสมควรก็ถึงคราวที่ต้องมาจับพวงมาลัยขับกันแล้ว โดยเส้นทางที่ใช้จะเป็น กรุงเทพฯ – สิงห์บุรี การออกเดินทางเริ่มช่วงสายๆ ของวันเสาร์ ซึ่งรถก็จะค่อนข้างมากพอสมควร พอเริ่มสตาร์ทก็เริ่มฟังเสียงว่าเครื่องยนต์ทำงานหรือยังเพราะเสียงเงียบมาก เงียบจนต้องดับและสตาร์ทใหม่กันเลยทีเดียว เริ่มเหยียบคันเร่งเดินเครื่องยนต์นำก่อน พอความเริ่มใช้ความเร็วคงทีการทำงานของเครื่องของไฮบริดก็มาผสานทำให้การขับขี่นุ่มนวล พอเริ่มเข้าถนนสายเอเชีย ก็ได้ใช้ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ แบบแปรผัน DRC (Dynamic Radar Cruise Control) ควบคู่กับระบบประคองรถให้อยู่ในช่องจราจร LTA ( Lane Tracing Assist ) บอกเลยว่าการใช้งานตอนแรกก็มีอาการเกร็งๆ โดยระบบนี้จะเป็นการจับเรดาร์ความเร็วจากรถคันหน้าเราสามารถปรับความเร็วได้ตามที่ต้องการ และรถจะประมวลความเร็วระยะห่างจากรถคันหน้าโดยอัตโนมัติ ทำให้การขับขี่ของเราง่าย สะดวกสบายและปลอดภัยยิ่งขึ้น การขับขี่ครั้งนี้ค่าเฉลี่ยอัตราน้ำมันอยู่ที่ 24 กม./ลิตร 

Toyota Corolla Cross มีจำหน่ายโดยกันทั้งหมด 3 รุ่น ดังนี้

HEV Premium Luxury ราคา  1,204,000 บาท

HEV Premium ราคา  1,094,000 บาท

1.8 Sport Plus ราคา    999,000 บาท

หากสนใจข้อมูลหรือทดลองขับสามารถติดต่อได้ที่โชว์รูมโตโยต้า หรือ www.toyota.co.th