รีวิวทดลองขับ“Electrified Go-Kart”  MINI COOPER SE 2024 รหัสตัวถัง J 01 ค่าตัว 1.699 ล้านบาท

ภาพจำของแฟน MINI COOPER ทั่วโลกนอกจากต้นกำเนิด ที่เกิดมาเป็นรถขนาดเล็กเพื่อผลของความคล่องตัวและประหยัดเชื้อเพลิง ตั้งแต่ Mark 1 คันกระเปี๊ยกที่มี นักแข่งในตำนานนาม John Cooper นำรถ MINI มาจัดทรงลงแข่งแรลลี่ Monte Carlo เมื่อปี 1963 จากนั้นเจ้าเปี๊ยก มินิ ที่เดิมชื่อ Mini มาร์กวัน-มาร์กทู, คลับแมน และมาร์กทรี นอกจากนี้ยังมีรูปแบบบอดี้หลากหลายทั้งแวนแบบเปิดประตูตู้กับข้าว หรือแม้กระทั้งรูปแบบกระบะคันจิ๋ว กลายร่างทรงเล็กเป็น MINI COOPER John Cooper ทรงพลังนั่งกระชับขับมันสไตล์ “Go-Kart feeling” จากเอกลักษณ์ หน้ารถที่สั้น ฐานล้อยาวและล้อขนาดใหญ่18“ขึ้นไป พร้อมป้ายชื่อกำกับ JCW (John Cooper Works)

การเดินทางของ MINI ภายใต้ชื่อ MINI COOPER นั้น เริ่มต้นต่อเนื่องมาตั้งแต่ 

GEN1 รหัสตัวถัง R50-53 เปิดตัวราวปี 2001 เป็นครั้งแรกที่ MINI จัดเรียงลำดับรุ่นย่อยตามระดับออฟชั่นและความแรงของเครื่องยนต์ ตั้งแต่ one, cooper, cooper s ที่มี Supercharged รวมถึง John Cooper Works ตัวแรง ก่อนจะมาเป็น GEN2 ราวปี 2007 รหัสตัวถัง R56 แยกย่อยตามระดับออฟชั่นและความแรงของเครื่องยนต์ ตั้งแต่ one, cooper, cooper s มี Turbocharger รวมถึง John Cooper Works เช่นเดียวกัน GEN3 เริ่มตั้งแต่ปี 2013 เปลี่ยนอักษรรหัสจาก R56 มาเป็น F56 MINI GEN นี้มีเทคโนโลยี BMW ทั้งคันยกเว้นรูปแบบตัวถัง GEN4 เริ่มตั้งแต่ปี 2022 นับเป็นการเปลี่ยนครั้งใหญ่ เปลี่ยนอักษรรหัสจาก F56  มาเป็น SE ใช่แล้ว MINI SE รถ MINI พลังงานไฟฟ้า ก่อนจะมาเป็น

GEN5 รุ่นล่าสุด

MINI COOPER คันนี้ในตลาดโลกเปิดตัวกันไปแล้วตั้งแต่ต้นปีแต่สำหรับประเทศไทยเพิ่งเปิดตัวพร้อมเปิดราคาไปเมื่อวันที่ 17 ก.ค. ที่ผ่านมานี้ในอีเวนท์เปิดตัว ไฮไลท์ไปอยู่ที่ราคาค่าตัว มากกว่ารูปโฉมตัวจริงที่อยากเห็น เพราะเห็นตัวจริงผ่านโซเชียลมีเดียกันจนชินตาแล้ว จะไม่ให้คาดสีสะท้อนแสง ไฮไลน์ได้อย่างไรในเมื่อเปิดตัวเปิดราคา 1,699,000 บาท  นี่มันคือเรื่องจริงใช่ไหม?

MINI COOPER ไฟฟ้า คือรุ่นรถที่ต่อท้ายปลายชื่อว่า SE  โดยในตลาดโลก MINI COOPER ไฟฟ้า มี 2 รุ่นให้เลือก MINI COOPER E และ ตัวแรง  MINI COOPER SE เพิ่ม S สีเหลืองที่แสดงถึงรุ่นรถพลังงานไฟฟ้าและยังคงสืบสานตำนานความแรงที่แสดงออกผ่านตัวS ตัวเดียวกันนี้ S สีเหลืองตัวนี้เลยสามารถแปลความหมายได้ว่าเป็น“MINI COOPER ไฟฟ้าตัวแรง” แต่มีแรงกว่านี้ตามสมการของ MINI COOPER ก็ต้องตัวท๊อป JCW แน่นอนว่ามีมาแน่สำหรับ MINI COOPER EV JCW แค่รอเวลาเหมาะสมในการเปิดตัวแนะนำกับชาวโลกและประเทศไทย  

เดินชมรอบคัน

ไฟหน้าเปลี่ยนอารมณ์ ไฟหน้าดวงตากลมโตคู่นี้สังเกตุดีๆ ที่เส้นไฟคู่ขนาดแนวนอน 2 เส้นนี้สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการแสดงแสงแบบที่เรียกว่าเดย์ไทม์รันนิ่งไลท์ได้ 3 รูปแบบ (Classic, Favoured (เฟเวิร์ด) และ JCW ) ซึ่งคำสั่งงาน 3 รูปแบบนี้ถูกส่งคำสั่งไปที่การแสดงผลของไฟท้ายควบคู่กันไปด้วย

ด้านข้าง จากที่เห็นไม่มีความชัดเจนในรูปทรงใหม่มากนัก ยังคงความเป็น “แฮท”3  ประตู MINI ดีไซน์ อยู่ แต่ที่แปลกไปคือ มือเปิดประตูที่ MINI รุ่นก่อนๆจะเป็นแบบสอดมือเข้าไปกดปลดล๊อคแล้วดึง เป็นแบบช้อนมือเข้าไปดึงซึ่งแบบใหม่นี้จะเรียบแนบไปกับตัวถัง ไม่เหมือนรุ่นก่อนที่ยื่นโค้งออกมา และอีกสิ่งหนึ่งที่ชัดเจนและสะดุดตามากคือ เชฟหรือทรงของกระจกมองข้างที่ออกไปทางบึกบึนขึ้นมามาก ต่างจากรุ่นก่อนที่ออกไปในทรงไข่ อันนี้ขัดใจ ไม่ชอบ แต่พอให้อภัยได้เมื่อเห็น ล้อขนาด 18 นิ้วแบบ Slide spoke ที่มีมาให้

เมื่อมองจากด้านข้างสิ่งที่ตาเห็นขนาดบอดี้แทบไม่ได้ต่างจากรุ่นก่อนเลย แต่สิ่งที่ได้มากกว่าตาเห็น จากช่วงล่างที่มีการปรับขยายฐานล้อให้ยาวขึ้นโดยขยับเข้าไปกินพื้นที่ที่เคยเป็นกันชนทั้งหน้าและหลังหรือบริเวณที่ฝรั่งเรียกว่า Short overhang หลักการออกแบบ แบบนี้มีข้อดีคือ พื้นที่ภายในห้องโดยสารจะเพิ่มขึ้นแล้ว หากมีคำถามว่า ทำไม MINI รุ่นก่อนไม่ทำ ตอบ ทำไม่ได้ไง เพราะเมื่อเป็นรถใช้เครื่องยนต์บริเวณนั้นมันไม่มีพื้นที่ให้ขยับขยาย 

ด้านหลังฝั่งไฟท้ายทรงสามเหลี่ยนแนวใหม่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม แถมออกแบบ ส่วนมุมยื่นเข้าไปฝังในฝั่งฝาท้ายทำให้ทรงของฝาท้ายต้องถูกตัดทำมุมสามเหลี่ยมเข้าไป ถ้าปิดฝาท้ายไว้ก็ไม่รู้สึกอะไร แต่หากเปิดฝาท้ายขึ้นไปมันจะดูสะดุดตาทันที

ห้องโดยสารเน้นความเรียบง่าย แต่ไม่ธรรมดา ความเรียบง่ายของแผงหน้าปัด แผงประตู และฝาปิดช่องเก็บของต่าง ๆ ภายในได้มาจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล 90% เบาะนั่งยังได้ทรงคงความหรูหราแบบที่ชาว MINI คุ้นเคย แต่เปลี่ยนไปใช้วัสดุหนังสังเคราะห์ สะดุดตาที่หน้าจอ OLED (โอเล็ด)

MINI COOPER SE ปี 2024 ช่วงล่างมีที่ปรับแต่งเพื่อคล่องตัวในการควบคุมด้วยจุดศูนย์ถ่วงต่ำผลพวงจากการจากการติดตั้งแบตเตอรี่ใต้พื้นรถ รวมถึงฐานล้อที่ยาวขึ้น ขยับไปชิดมุมรถทั้ง 4 ด้าน (Short overhang)

หน้าจอ MINI Interaction Unit ของการแสดงโหมดการใช้งาน Experience ฟีเจอร์ 7 โหมดแต่ละโหมดจะปรับการแสดงสีสันจากหน้าจอรวมทั้งระบบไฟภายในห้องโดยสารและเสียงเครื่องยนต์จำลอง

โหมดมาตรฐาน Core Mode ห้องโดยสารจะได้รับการตกแต่งด้วยหน้าจอและไฟในโทนสี Laguna ที่เป็นหนึ่งในสีประจำตัวของมินิ พร้อมการขับขี่โหมด Comfort และเสียงจำลองแบบมาตรฐานที่ทั้งผู้ขับขี่และบุคคลภายนอกจะได้ยินไปด้วย เพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่การขับขี่และคนเดินถนน 

Go-Kart Mode จะเปลี่ยนชุดสีหน้าจอเป็นสีดำ Anthracite ผสมกับสีแดง และระบบไฟ ambient light สีแดง เติมความดุดันให้เข้ากับการขับขี่ในแบบสปอร์ตด้วยเสียงเครื่องยนต์จากรุ่นจอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ที่ปรับแต่งมาเพื่อสร้างความเร้าใจโดยเฉพาะ 

Green Mode จะตั้งค่ารถเป็นโหมดการขับขี่แบบมีประสิทธิภาพที่สุด เพื่อเพิ่มระยะทางการขับขี่สูงสุด ขณะที่หน้าจอและระบบไฟส่องสว่างจะมาในสีเขียวนวลตา

นอกเหนือจาก 3 โหมดข้างต้น MINI Interaction Unit ยังมีลูกเล่นแต่งเติมเสริมบุคลิกให้ผู้เป็นเจ้าของด้วย 4 โหมด เอนเตอร์เทนเมนท์ ให้ได้สนุกทั้งที่ไม่ใช่ผู้ขับ

Vivid (วีวิด) Mode สามารถในการซิงค์แสงไฟภายในกับภาพปกอัลบั้มของเพลงที่กำลังเล่นใน จากการใช้เทคโนโลยีลูกเล่นสี “Color Grabber” 

Personal Mode สามารถเลือกเองได้ ปรับเปลี่ยนภาพพื้นหลังหรือวอลเปเปอร์ให้แสดงผลที่หน้าจอได้

Timeless Mode โหมดที่สะท้อนย้อนภาพประวัติศาสตร์คลาสสิกของมินิ ให้แสดงบนหน้าจอทั้งภาพเข็มไมล์และเสียงเครื่องยนต์ของ MINI คลาสสิกที่ใช้เครื่องยนต์ดูดอากาศด้วยคาบูเรเตอร์

สำหรับ โหมด Balance Mode แสดงผลสร้างบรรยากาศความเรียบง่าย สบายๆผ่อนคลายและสงบ 

MINI COOPER SE ขับเคลื่อนด้วยพลังมอเตอร์ไฟฟ้า 160 กิโลวัตต์ / 218 แรงม้า แรงบิดสูดสุด 330 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 6.7 วินาที แบตเตอรี่เป็น lithium-ion ความจุ 54.2 kWh วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 402 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP  เมื่อพูดถึง MINI COOPER ต้องนึกถึงอารมณ์ “Go-Kart feeling”แต่สำหรับ MINI COOPER SE มีคำว่า “Electrified Go-Kart” ขึ้นมาอีกคำ เอ๊ะ มันยังไง ไปลองขับกัน

ในส่วนของการขับขี่ MINI COOPER SE ปี 2024 ช่วงล่างมีการปรับแต่งเพื่อคล่องตัวในการควบคุมด้วยจุดศูนย์ถ่วงต่ำผลพวงจากการติดตั้งแบตเตอรี่ใต้พื้นรถ รวมถึงฐานล้อที่ยาวขึ้น ขยับไปชิดมุมรถทั้ง 4 ด้าน (Short overhang) คงไว้ซึ่งสไตล์การขับขี่แบบโกคาร์ทไว้ได้อย่างเหนียวแน่นแน่นอนว่าการบังคับเลี้ยวยังคงคมและแม่นยำไม่เปลี่ยนแปลง สิ่งที่แสดงออกมาจากพลังมอเตอร์ 160 กิโลวัตต์ / 218 แรงม้า และแรงบิด 330 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 6.7 วินาที ทำงานผสานกับช่วงล่างจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ ฐานล้อที่ยาวขึ้นและขยับไปชิดมุมรถทั้ง 4 ด้าน (Short overhang) ทำให้มีความคล่องตัวมากขึ้น คงไว้ซึ่งสไตล์การขับขี่แบบโกคาร์ทไว้ได้อย่างครบถ้วน การบังคับเลี้ยวที่แม่นยำ แบตเตอรี่แรงดันสูง 54.2 กิโลวัตต์-ชั่วโมง  ในมินิ คูเปอร์ เอสอี ใหม่ พร้อมส่งพลังงานสำหรับการเดินทางที่ระยะทางสูงสุด 402 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP