เกีย เอเชีย แปซิฟิกเผยทิศทางภูมิภาคเอเชียแนะนำ KAI EV3-PV5

เกีย เอเชีย แปซิฟิกเผยทิศทางภูมิภาคเอเชียแนะนำ KAI EV3-PV5

กลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านรถไฟฟ้าของ เกีย เอเชีย แปซิฟิกเชื่อว่ายานยนต์ไฟฟ้า จะเชื่อมโยงกับการยกระดับประสบการณ์ลูกค้าในอนาคต

Kia Asia Pacific (เกีย เอเชีย แปซิฟิก) สร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญด้วยการเปิดงาน Kia EV Day ประจำปี พ.ศ. 2567 สำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ต่อเนื่องจากความสำเร็จของการจัดงาน Kia EV Day ระดับโลกในปี 2023 การจัดงานที่ไต้หวันในครั้งนี้ตอกย้ำว่า เกีย เป็นแบรนด์ที่มุ่งตอบโจทย์การเดินทางอย่างยั่งยืนผ่านการจัดแสดงรถยนต์ไฟฟ้าที่พร้อมออกสู่ตลาด รวมถึงรถยนต์ต้นแบบน่าประทับใจหลากหลายรุ่น

Kia EV Day ประจำปี พ.ศ. 2567 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกถือเป็นงานที่สานต่อกระแสการรีแบรนด์ในปี พ.ศ. 2564 ซึ่ง เกีย ได้ปรับโฉมแบรนด์และออกแบบโลโก้ใหม่แบบมินิมอล ที่แสดงถึงแรงบันดาลใจในการปฏิวัติวงการรถยนต์ไฟฟ้า โดยไฮไลท์งานปีนี้อยู่ที่การเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นล่าสุด และเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ตอกย้ำถึงจุดยืนการเป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าสำหรับทุกคน ตั้งแต่การจัดแสดง Kia EV3 เป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ก่อนเตรียมเปิดตัวในบางประเทศของภูมิภาคช่วงปี พ.ศ. 2568 รวมถึงรถยนต์ต้นแบบ คันใหม่ อาทิ Concept PV5 นอกจากนี้ยังมีรถยนต์ต้นแบบ Concept EV4 มาจัดแสดงในงานอีกด้วย

กีซอก อัน (Kiseok Ahn) ประธานและซีอีโอของ เกีย เอเชีย แปซิฟิก

 “งาน EV Day ในเอเชียแปซิฟิกครั้งแรกของเราแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ เกีย ต่อการเดินทางที่ยั่งยืน และแรงผลักดันของเราในการขับเคลื่อนการปฏิวัติวงการอีวี งานนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของการเดินทางสู่อนาคตที่ยั่งยืน ผ่านการจัดแสดงเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าขั้นสูง การออกแบบที่สร้างสรรค์ และกลยุทธ์ที่เน้นตอบโจทย์ลูกค้าเป็นหลัก ซึ่งไม่เพียงแต่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันเท่านั้น แต่ เกีย ยังวางรากฐานสำหรับอนาคตนำไปสู่ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นอีกด้วย เราจึงรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้แบ่งปันวิสัยทัศน์และนวัตกรรมของเรากับพันธมิตร รวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่ทรงคุณค่าของเราทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก”

การจัดงานครั้งนี้มีไฮไลท์ที่การเปิดให้ชม Kia EV3 แบบใกล้ชิด เพื่อสัมผัสการออกแบบด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงที่นำประสบการณ์ระดับพรีเมียมของ Kia EV9 เอสยูวีเรือธงมาสู่กลุ่มรถยนต์ เอสยูวี ไฟฟ้าขนาดเล็ก ทั้งนี้ EV3 ได้รับการออกแบบด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีจาก Kia EV รุ่นก่อนหน้า และมีการพัฒนาต่อเนื่องเพื่อให้ EV3 ตอบสนองความต้องการในตลาดรถยนต์เอสยูวีไฟฟ้าขนาดเล็กระดับเริ่มต้นที่เพิ่มขึ้น EV3 มีกำหนดการพร้อมจำหน่ายในบางประเทศของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกช่วงปี พ.ศ. 2568 คาดว่า EV3 จะมีบทบาทเร่งการพัฒนาให้ เกีย สามารถก้าวขึ้นเป็นแบรนด์ที่มุ่งตอบโจทย์การเดินทางอย่างยั่งยืน ด้วยการยึดตามปรัชญาการออกแบบ “Opposites United” หรือ “ความเป็นหนึ่งเดียวกันของสิ่งที่ตรงกันข้าม” ของ เกีย รถรุ่น EV3 จึงมีบังโคลนหลังที่โดดเด่นแบบ boxy รวมถึงหลังคาแบบลาดเอียง และรูปลักษณ์แข็งแกร่ง ในดีไซน์สปอร์ตทันสมัยที่เข้ากับฟังก์ชันการใช้งานโดนใจ

นอกจากนี้ EV3 ยังสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม Electric Global Modular Platform (E-GMP) ของ เกีย และมีระบบควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้งหรือ Electric Dynamic Torque Vectoring Control (eDTVC) เพื่อการยึดเกาะที่ดีขึ้น ขณะเดียวกันก็มีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงหลากหลายหรือ Advanced driver assistance systems (ADAS) เช่น ระบบป้องกันการชนด้านหน้า (Forward Collision-Avoidance Assist), ระบบช่วยควบคุมให้รถอยู่ในช่องจราจร (Lane Keeping Assist), ระบบช่วยขับขี่บนทางหลวง (Highway Driving Assist), ระบบช่วยหลีกเลี่ยงการชนขณะจอดถอยหลัง (Reverse Parking Collision-Avoidance Assist) และระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะจากระยะไกล (Remote Smart Parking Assist)  

นอกเหนือจาก EV3 แล้ว Kia EV Day ประจำปี พ.ศ. 2567 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยังนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคตทั้ง รถยนต์ต้นแบบ EV4 และรถยนต์ต้นแบบ PV5 เป็นครั้งแรกในภูมิภาคนี้ โดยรถยนต์ต้นแบบ EV4 นับเป็นตัวแทนของแนวคิดการออกแบบ “Power to Progress” หรือ “พลังแห่งความก้าวหน้า” ซึ่งต่อยอดจากแนวคิด Opposites United ทั้งนี้ ความเป็นหนึ่งเดียวกันของสิ่งที่ตรงกันข้ามนั้นเกิดขึ้นได้จากการผสานสุนทรียศาสตร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติเข้ากับเทคโนโลยีล้ำสมัย เพื่อนำเสนอรูปลักษณ์ที่โดดเด่น ที่เพิ่มเติมจากการออกแบบที่เน้นผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลาง พร้อมกับมอบความหรูหราและทันสมัยในรูปซีดานไฟฟ้ายุคใหม่

สำหรับ Concept PV5 นั้นเป็น Platform Beyond Vehicle (PBV) รุ่นแรกจาก เกีย ซึ่งเป็นแนวคิดที่ก้าวข้ามขอบเขตของยานยนต์แบบเดิม เพื่อมอบโซลูชันการสัญจรแบบครบวงจรที่ผสมผสานความกว้างขวางและเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ขั้นสูงสุด โดย Concept PV5 ถูกออกแบบให้ปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับการใช้งานได้หลากหลาย ตั้งแต่การใช้งานเชิงธุรกิจไปจนถึงการเดินทางผจญภัย โดยมีดีไซน์ที่ปรับให้เป็นรถสำหรับให้บริการเรียกรถโดยสารได้ รวมถึงบริการด้านการขนส่ง และกิจกรรมไลฟ์สไตล์ส่วนตัว

อีกทั้งภายในงาน Kia EV Day 2024 ที่เอเชียแปซิฟิกนี้ยังมีการจัดอสดง Kia EV 9 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเรือธงอีกด้วย โดย EV9 เป็นรถที่ได้รับรางวัล Women’s Worldwide Car of the Year ประจำปี พ.ศ. 2567 และรางวัลอื่นๆ อีกมากมายจากงาน World Car Awards ประจำปี พ.ศ. 2567 ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ เกีย ที่จะสร้างสรรค์รถยนต์ไฟฟ้าให้โดดเด่นต่อเนื่องไม่เพียงเปิดตัวรถรุ่นใหม่ เกีย ได้ย้ำถึงความมุ่งมั่นในการนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าที่ครอบคลุมในหลากหลายช่วงราคา รวมถึงวางแผนขยายทางเลือกของรถยนต์ไฟฟ้า รถยนต์ไฮบริดและ PBV ในขณะที่ยังรักษาความสมดุลของการจำหน่ายเครื่องยนต์สันดาปอีกด้วย นอกจากนี้ เกีย ยังวางแผนที่จะรักษาเสถียรภาพการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และรักษาสมดุลอุปทานของแบตเตอรี่โดยการผลิตรถไฟฟ้าในโรงงาน 6 แห่งทั่วโลก ภายในปี พ.ศ. 2567

ด้วยยุทธศาสตร์นี้ เกีย มีเป้าหมายที่จะขับเคลื่อนการนำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้และบรรลุเป้าหมายการขายรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 1.6 ล้านคันต่อปี ภายในปี พ.ศ. 2573 ถือเป็นการเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของ เกีย ในการพัฒนาความพึงพอใจของลูกค้าให้เหมาะกับความต้องการของแต่ละบุคคลผ่านเทคโนโลยีขั้นสูงที่ปรับแต่งได้ในทุกจุดสัมผัส ตั้งแต่จุดขาย ไปจนถึงประสบการณ์ในรถยนต์ และการใช้งานขณะเดินทาง

งาน Kia EV Day ประจำปี พ.ศ. 2567 ที่จัดขึ้นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จึงตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นเชิงกลยุทธ์ของ เกีย ในการพัฒนาอนาคตของการเดินทางให้ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้าและแผนงานเชิงกลยุทธ์ของ เกีย โปรดคลิกที่ เว็บไซต์ของ เกีย

เกี่ยวกับ เกีย คอร์ปอเรชั่น และ เกีย เอเชียแปซิฟิก

เกีย (www.kia.com) เป็นแบรนด์ยานยนต์ระดับโลกที่มุ่งมั่นในการเป็นผู้บุกเบิกและเป็นผู้นำด้านโซลูชันยานยนต์ที่ยั่งยืนสำหรับผู้บริโภค ชุมชน และสังคมทั่วโลก ด้วยการเน้นที่ยานยนต์ไฟฟ้าและยานยนต์แบตเตอรี่ไฟฟ้า เกีย มุ่งมั่นที่จะสร้างแรงบันดาลใจในแนวทางใหม่ในการใช้ผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี และบริการที่สร้างสรรค์ เกีย ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2487 ปัจจุบันมีพนักงานมากกว่า 52,000 คนทั่วโลก ดำเนินงานใน 200 ตลาด มีโรงงานผลิตใน 6 ประเทศ สามารถจำหน่ายรถยนต์ได้ประมาณ 3 ล้านคันต่อปี สโลแกนของแบรนด์ เกีย คือ Movement that inspires หรือการเคลื่อนไหวที่สร้างแรงบันดาลใจ ถือเป็นสโลแกนที่สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ เกีย ที่จะเชื่อมต่อกับลูกค้าผ่านนวัตกรรมที่มีความหมาย สำหรับ เกีย เอเชียแปซิฟิก นั้นมีสำนักงานหลักอยู่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย บริหารจัดการการดำเนินงานของ เกีย ใน 34 ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

ข้อมูลเพิ่มเติม  Kia Global Media Centre ที่ www.kianewscenter.com