ท่ามกลางสถานการณ์ยานยนต์แม้จะยังไม่ถึงจุดอิ่มตัวของความต้องการซื้อ แต่ก็ใช่ว่ากำลังซื้อจะคล่องตัว เหมือนเมื่อหลายปีก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกระแสยานยนต์พลังงานใหม่ หรือเรียกให้ง่ายได้ว่า ”รถยนต์ไฟฟ้า”
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการทำสงครามราคาของหลายค่ายรถยนต์จากประเทศจีน ส่งผลโดยตรงกับยอดขายรถยนต์ของค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นทุกเซกเมนต์ ต่อสถานการณ์ยานยนต์ที่เกิดขึ้นแบบนี้ โตโยต้าเองยังคงเผชิญความท้าทายมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดที่หดตัวลง ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว โตโยต้า ยังสามารถเปิดหน้าสู้ได้อย่างสูสี นอกจากผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่ยอบรับ รวมถึงการเปิดตัวรถรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง
และด้วยความแข็งแกร่งของผู้แทนจำหน่ายฯ ทั่วประเทศ ทำให้โตโยต้าสามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 38% สูงสุดในรอบ 13 ปี พร้อมกันนี้ โตโยต้า เปิดเกมบุกตลาดรถยนต์พลังงานใหม่ไซส์ใหญ่ สานต่อตำนานโตโยต้า Camry ที่เปิดตัวในประเทศไทยเป็นครั้งแรกเมื่อพ.ศ. 2536 ซึ่งได้รับความนิยมอย่างดีตามความคาดหมายจากลูกค้าทั้งภายในประเทศและในต่างประเทศ นับตั้งแต่การเปิดตัว ยอดจำหน่ายสะสมในประเทศอยู่ที่กว่า 230,000 คัน (ข้อมูลยอดขายตั้งแต่พ.ศ. 2536 ถึงเดือนสิงหาคม 2567) และเราได้ส่งออก Camry มากกว่า 130,000 คัน ไปจำหน่ายยังประเทศอื่นๆ กว่า 10 ประเทศ (ข้อมูลยอดส่งออกตั้งแต่พ.ศ. 2550 ถึงเดือนสิงหาคม 2567) ถึงวันนี้ โตโยต้าพร้อมเดินหน้าตอบโจทย์ทุกความต้องการ ALL-NEW CAMRY ถูกพัฒนาภายใต้แนวคิด “SEDAN TO THE CORE” ซึ่งเป็นการให้ความสำคัญและพัฒนาต่อยอดในจุดแข็งต่างๆ ของ CAMRY
หลังการเปิดตัวแนะนำอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ที่ผ่านมา จากนั้นโตโยต้าได้จัดกิจกรรมการทดสอบ และเราincarsmagazine ได้รับเชิญเข้าร่วมทดสอบรถยนต์ ALL-NEW Toyota Camry บนเส้นทางกระบี่-พังงา-ภูเก็ต ระยะทางโดยรวมประมาณ 260 กิโลเมตร สำหรับ ALL-NEW Toyota Camry ได้ทำการเปิดตัวเมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมาโดยจะมีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น HEV Smart , HEV PREMIUM และ HEV PREMIUM LUXURY โดยจุดเด่นของรถยนต์ ALL-NEW Toyota Camry ในครั้งนี้ได้มีการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์เป็นระบบไฮบริดเจนเนอเรชั่นใหม่ 2.5 ลิตร และเมื่อเครื่องยนต์ทำงานควบคู่กับมอเตอร์จะได้กำลังสูงสุด 227 แรงม้าถือว่าเป็นรุ่นที่ทำการประหยัดและมีพละกำลังที่ดี
หลังจากที่เราเดินทางถึงกระบี่ก็จะเป็นจุดแรกที่ได้ไปสัมผัสกับ ALL-NEW Toyota Camry โดยจะมีการบรีฟข้อมูลตัวรถจากทีมงานของโตโยต้า สำหรับ รุ่นใหม่นี้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างโดยหลักๆก็จะมี 5 จุดเด่น คือการเร่งออกตัวและเร่งแซงดี ประหยัดน้ำมัน , สามารถเบรกได้อย่างมั่นใจ , ห้องโดยสารภายในเงียบ , การขับขี่จะนุ่มนวล และ มีระบบความปลอดภัย TSS รุ่นใหม่ เมื่อบรีฟเส้นทางกันเรียบร้อยแล้วเราก็ออกเดินทางไปรับประทานอาหารที่พังงาโดยจะเป็นการขับรถขึ้นเขาสลับทางเรียบบนถนนสี่เลนระยะทางช่วงแรกจะอยู่ที่ประมาณ 80 กิโลเมตรช่วงแรกเราได้รับบทเป็นผู้โดยสารด้านหลัง ก็ได้ทำการทดสอบเป็นผู้นั่งสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
ถ้าเป็นรุ่นท็อปจะมีเบาะปรับไฟฟ้าปรับแอร์เสียงเพลงพร้อมที่วางแก้วแบบพับเก็บได้และผังควบคุมแบบระบบสัมผัสแบบดิจิตอลเป็นอารมณ์แบบผู้บริหารนั่งสบาย จนเกือบหลับแต่กลับมาได้ถึงจุดรับประทานอาหารเที่ยงที่เขาหลักได้แวะรับประทานอาหารและเติมพลังหลังจากนั้นเปลี่ยนมือเป็นผู้ขับโดยออกเดินทางไปจังหวัดภูเก็ตด้วยระยะทางประมาณ 93 กิโลเมตร เนื่องจากเราเป็นผู้หญิงตัวค่อนข้างเล็กก็ได้มีการปรับเบาะ และพวงมาลัยให้เข้ามือเริ่มออกเดินทางสัมพันธ์แรกรับรู้ได้ว่ามีการปรับเปลี่ยนช่วงล่างให้นุ่มนวลขึ้นคือขับขี่สบาย การเข้าโค้งดีขึ้นแน่นหนึบติดถนน
สำหรับ ALL-NEW Toyota Camry ได้มีระบบความปลอดภัยที่ปรับเปลี่ยนมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นกล้องมองรอบคันสัญญาณเตือนกะระยะ 8 ตำแหน่ง ระบบ TSS ใหม่ มีการควบคุมความเร็วอัตโนมัติ จะมีการลดความเร็วอัตโนมัติขณะเข้าโค้งคือเมื่อเราเข้าโค้งด้วยความเร็วที่สูง ตัวรถจะมีการปรับและลดความเร็วให้เราเลยเพื่อความปลอดภัย แต่อาจจะมีจุดที่ต้องปรับเปลี่ยนและเราได้แจ้งทางทีมโตโยต้าไปแล้วที่พวงมาลัย ช่วงปุ่มที่จะไปในระบบต่างๆเช่นพวกระบบความเร็วอัตโนมัติระบบต่างๆคือปุ่มมันจะเรียบเหมือนกันหมดทำให้เวลาที่เราจะใช้งานอาจจะต้องมีการละสายตาลงมาดูในช่วงที่เราขับขี่ โดยเราได้แจ้งทางทีมได้รับทราบข้อมูลเรียบร้อย
เราใช้เวลาเดินทางจากพังงามาภูเก็ตประมาณ 1 ชั่วโมงก็ได้สัมผัสได้ ALL-NEW Toyota Camry มีการปรับเปลี่ยนช่วงล่างทำให้คันขับขี่ง่ายขึ้น มีระบบอุปกรณ์ ฟังก์ชันใช้งานที่ใส่มาให้กับตัวรถค่อนข้างเยอะ เน้นความสะดวกสบายและทันสมัยใช้งานที่ง่ายขึ้น สำหรับราคาของทั้ง 3 รุ่น ถ้าใครจองและรับรถจะได้รถในราคาที่พิเศษ HEV Smart 1,455,000 บาท , Premium 1,639,000 บาท , Premium Luxury 1,789,000 บาท โดยภาพรวมที่ได้มาขับ ALL-NEW Toyota Camry ถือได้ว่าเป็นอีกนึงตัวเลือกในกลุ่มรถ D-Segment ที่น่าใช้งานอีก 1 คัน
