All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid เสียบปลั๊กรักษ์โลก

All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid เสียบปลั๊กรักษ์โลก

รีวิวรถยนต์ใหม่

โดย.จุฑามาศ สุภณชัย

กรุงเทพฯ-อยุธยา 3 ตุลาคม 2565

เมื่อเร็วๆนี้ ทาง www.incarsmagazine.com ได้เข้าร่วมทดสอบ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV รถยนต์เอสยูวีพลังงานไฟฟ้าแบบเสียบปลั๊กรุ่นใหม่ล่าสุด โดยการทดสอบครั้งนี้มาในคอนเซ็ปต์ ‘Future Transformed’ บนเส้นทางกรุงเทพฯ – อยุธยา ซึ่งในการขับขี่จะได้ลองใช้งานในรูปแบบ Plug-in แบบเต็มรูปแบบ สำหรับการเปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการแต่ทาง เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้มีการเปิดให้จองก่อนโดยไม่เปิดเผยราคาแต่จะมีส่วนลดให้สูงสุดถึง 300,000 บาท และในวันที่เข้าร่วมทดสอบ ( วันที่ 27 กันยายน ) ก็ได้มียอดจองประมาณ 6,000 คันแล้ว ถือว่าไม่ทำธรรมดากับการเปิดให้จองรถก่อนแต่ไม่แจ้งราคา ซึ่งจะทำการเปิดราคาในวันที่ 7 ตุลาคมนี้ 

All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV รถยนต์ Plug-in Hybrid บนแพลตฟอร์มโมดูลาร์อัจฉริยะ GWM LEMON ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 1.5L Turbo ผสานการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า และเพลาขับเคลื่อนอิเล็กทรอนิกส์แบบ Multi-mode DHT ให้กำลังรวมสูงสุด 326 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 530 นิวตันเมตร ผนวกกับแบตเตอรี่ชนิดลิเธียม Ternary ความจุ 34 kWh ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 201 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC และมาพร้อมกับหัวชาร์จไฟฟ้าแบบ CCS Type 2 Combo รองรับการชาร์จแบบเร็วด้วยไฟกระแสตรง DC (0% – 80%) โดยใช้เวลาประมาณ 35 นาที และการชาร์จด้วยไฟบ้าน AC (0% – 100%) ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง  

การออกแบบภายนอก

 All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid  มาพร้อมมิติตัวรถขนาดกว้างขวาง ดีไซน์ด้านหน้าแบบ Star Matrix  ไฟหน้า Intelligent LED Headlamp  ให้ความสว่างแบบ Ultra-High Flow และ หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิค 360 องศา เข้าทรงกับสปอยเลอร์ท้ายและเสาอากาศแบบ shark fin พร้อมระบบประตูท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้าและระบบแฮนด์ฟรี เสริมด้วยไฟท้าย LED Taillight Strip เป็นแนวยาว และล้ออัลลอยลายสปอร์ตขนาด 19 นิ้ว

การออกแบบภายใน

All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid มาในแนวคิด Minimalist ที่เน้นความกว้างขวาง สะดวกสบาย ด้วยคอนโซลหน้าสีทูโทนสไตล์ Futuristic และครบครันด้วยฟังก์ชันอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิเช่น หน้าจออัจฉริยะ 3 จอเพื่อการเข้าถึงข้อมูลและความบันเทิงได้อย่างง่ายดายลำโพง 8 ตำแหน่ง ระบบปรับระดับเสียงอัตโนมัติตามความเร็วรถ เบาะนั่งไฟฟ้าคู่หน้า พร้อมระบบระบายอากาศ เบาะนั่งโดยสารด้านหลังพร้อมที่เท้าแขนกลาง แท่นชาร์จไร้สาย กุญแจ Smart Key และระบบ Push Start

รีวิวการขับขี่

เริ่มต้นการเดินทางออกตัวที่ GWM Store สาขา ATT U Park บางนา และในการทดสอบครั้งนี้ มี DJI ได้นำกล้องรุ่น Pocket ต่างๆ มาให้ทดลองใช้ถ่ายในการทดสอบพร้อมมีผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำทุกผลิตภัณฑ์

ก่อนออกเดินทางได้มีการบรีฟข้อมูลรถโดยคุณจิรศักดิ์ ชื่นอารมย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด เส้นทางการทดสอบวันนี้จะเป็น กรุงเทพฯ-อยุธยา ระยะทางไปกลับประมาณ 204 กม. ออกเดินทางรับบทเป็นผู้โดยสารตอนหลัง All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid กว้างนั่งสบาย มีที่เท้าแขนกลาง ช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลังและช่องเสียบ USB ด้วยความสบายแอร์เย็นแอดมินก็ได้พักสายตาจนถึงร้านอาหารขาวละออเลยค่ะ สำหรับพื้นที่ห้องโดยสารถือว่าโดยรวมมีพื้นที่ใช้สอยด้วยและที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยได้ตามความต้องการ เบาะนั่งโดยสารด้านหลังสามารถแยกพับเบาะได้แบบ 60:40 

หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเรียบร้อยถึงเวลาที่จะได้สัมผัสเจ้า All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid กันแล้ว เริ่มแรกมาดูโหมดการขับขี่จะมี 4 แบบ ได้แก่ โหมดมาตรฐาน โหมดสปอร์ต โหมดประหยัด และโหมดสภาพถนนลื่น แอดมินได้ใช้ครบเลยค่ะเพราะสภาพอากาศวันนั้นมีฝนตกสลับกับมีแดด การยึดเกาะถือว่าดี ในช่วงเร่งแซงก็ทำได้โดยไม่เสียจังหวะ ต้องว่าก่อนว่า All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV สามารถเลือกระบบการขับขี่ได้ 2 ระบบ คือ ระบบไฮบริด และระบบไฟฟ้า การชาร์จไฟทำได้แบบเร็วด้วยไฟกระแสตรง (DC) และการชาร์จแบบไฟบ้าน (AC) หัวชาร์จไฟฟ้าจะเป็นแบบ CCS Type 2 combo (Combined Charging System)  ระยะเวลาในการชาร์จอาจจะขึ้นอยู่กับระดับแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่และกำลังไฟของสถานีชาร์จ ด้านเทคโนโลยีความปลอดภัย ทาง เกรท วอลล์ มอเตอร์ก็จับใส่มาให้เต็มที่ อาทิ 

  • ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI) ช่วยตรวจจับรถยนต์ทั้งทางตรงและทางแยก เมื่อเสี่ยงต่อการชน ระบบจะส่งสัญญาณเตือนด้วยเสียงและการเบรกอัตโนมัติช่วยหลีกเลี่ยงการชนหรือลดแรงกระแทก 
  • ระบบช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB) เซนเซอร์ช่วยตรวจสอบจุดอับสายตาด้านหลังของตัวรถทั้งด้านซ้ายและด้านขวาของช่องทางเดินรถในขณะถอยหลัง เมื่อกำลังถอยหลังออกจากช่องจอด เซนเซอร์หลังของรถจะทำการเช็กด้านซ้ายและขวาของช่องจราจรและ ส่งสัญญาณเตือนด้วยเสียง หากผู้ขับขี่ยังเพิกเฉย ไม่หยุดรถ ระบบเบรกอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉินจะเริ่มทำงานเพื่อหลีกเลี่ยงการชน
  • ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS) โดยระบบจะตรวจสอบรถบรรทุกขนาดใหญ่หรือรถที่มีขนาดยาว​ ในระหว่างการแซง ระบบจะรักษาช่องว่างระหว่างรถตามระยะที่เหมาะสม​เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และกลับสู่เลนเดิมอัตโนมัติ
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA) ระบบตรวจจับเส้นถนนและช่วยประคองพวงมาลัยให้รถอยู่ในเลน
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW) ระบบตรวจจับเส้นถนนและช่วยแจ้งเตือนเมื่อรถกำลังออกนอกเลน
  • ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK) ระบบตรวจจับเส้นถนนและช่วยประคองรถให้อยู่กึ่งกลางเลน
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK) โดยหากมีการตรวจสอบพบรถอีกคันกำลังแล่นมา หรือมีรถแซงขึ้นมาจากอีกเลนหนึ่ง ระบบจะทำการแทรกแซงการทำงานมากขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงหรือลดการชน
  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา (BSD) ช่วยตรวจสอบรถในเลนที่ติดกัน
  • ระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการเกิดการชนซ้ำครั้งที่ 2 (SCM) โดยรถจะพยายามรักษาเสถียรภาพเอาไว้เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน
  • ระบบช่วยลงทางลาดชัน (HDC) ใช้เบรกเพื่อช่วยควบคุมความเร็วของรถขณะขับบนทางลาดชันเพื่อให้ผู้ขับขี่มีสมาธิในการบังคับพวงมาลัย
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน (HSA) เมื่อออกจากจุดที่หยุดนิ่งบนเนินสูงชัน เบรกจะยังคงค้างอยู่ราว 2 วินาที จนกระทั่งคันเร่งทำงานเพื่อป้องกันการถอยหลัง

หลังจากเดินทางมาถึง GWM Store สาขา ATT U Park บางนา เป็นที่เรียบร้อย สรุปแล้ว All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV รถยนต์รุ่นแรกที่ทาง เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้นำมาเข้าเพื่อให้เป็นทางเลือกของลูกค้าที่ต้องรถที่เป็นทั้งน้ำมันและพลังงานไฟฟ้าไม่ยากและไม่ง่ายเลย แต่คนตัดสินใจก็คือลูกค้าเอง มารอฟังราคาว่าจะว้าว ว้าวไหม แล้วพบกันในวันที่ 7 ตุลาคมนี้ค่ะ 

All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid GALLERY