ไฮไลท์งาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ โปรโมชั่น ปี2563

ไฮไลท์งาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ โปรโมชั่น ปี2563

ข่าวรถยนต์

เรียบเรียงโดย เตมีย์ ลิ้มตระกูล

กรุงเทพฯ 15 กรกฎาคม 2563

เปิดม่านผ่าวงล้อมสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ที่ทำพิษปิดสายพานการดำเนินธุรกิจทุกชนิดทั่วโลก รวมถึงแวดวงงานแสดงยานยนต์ก็ได้รับผลกระทบเช่นกันแต่ทางผู้จัดงานสามารถจัดงานแสดงรถยนต์งานใหญ่แห่งปีเป็นงานแรกของโลกให้เกิดขึ้นได้ โดยงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 41 จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 15-26 กรกฎาคม นี้ ที่ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-3 อิมแพ็คเมืองทองธานี หลังจากเลื้อนมาแล้วถึง3ครั้งตั้งแต่ต้นปี งานนี้นับเป็นการปฏิวัติงานจัดแสดงรถยนต์ตามรูปแบบวิถีชีวิตใหม่-New Normal ด้วยการวางมาตรการคัดกรองผู้เข้าชมงานอย่างเคร่งครัดตามข้อกำหนดของรัฐบาล ค่ายรถยนต์-จักรยานยนต์ชั้นนำเข้าร่วมงานคับคั่งบนพื้นที่กว่า 170,000 ตารางเมตร เตรียมเปิดประสบการณ์ใหม่ Virtual Motor Show จำลองบรรยากาศงานสู่โลกออนไลน์เพิ่มทางเลือกให้ผู้ที่ต้องการเลือกซื้อรถยนต์

สิ่งสำคัญนอกจากมาตรการคุมเข้มเรื่องความปลอดภัยในทุกๆด้านแล้ว ในส่วนของผู้เข้าชมงานเองก็ต้องปรับตัวรับวิธีการเข้าชมงานมอเตอร์โชว์แบบวถีใหม่ โดยอุปกรณ์ที่ต้องมีติดตัวทุกคนคือ สมาร์ทโฟนโดยนอกจากจะใช้เป็นกล้องบันทึกภาพและถ่ายวีดีโอแล้วยังต้องใช้แทนบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อแสดงตัวต้น และไทม์ไลน์ในการเช็คอิน-เช็คเอ้าท์ เข้า-ออกจากบริเวณการจัดแสดงรถยนต์ของค่ายรถยนต์ต่างๆผ่่านแอพพลิเคชั่นไทยชนะ เมื่อเตรียมพร้อมรับปรับตัว New Normal เราก็พร้อมเข้าชมรถยนต์จาก บริษัทรถยนต์ และจักรยานยนต์ที่เข้าร่วมงาน และเพื่อให้สะดวกในการเรียบเรียงขอนำเสนอ ไฮไลท์และโปรโมชั่นแคมเปญ ของแต่ละค่ายรถยนต์เรียกลำดับตัวอัหษร A-Z โดยเรามาเริ่มกันที่ 

ASTON MARTIN

ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2020 บริษัท แอสตัน มาร์ติน แบงคอก ผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย แอสตัน มาร์ติน อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เปิดตัว แอสตัน มาร์ติน ดีบีเอ็กซ์ เอสยูวี รุ่นแรกในประวัติศาสตร์ ของ แอสตัน มาร์ติน เป็นรถรุ่นที่ 4 ภายใต้กลยุทธ์ ‘Second Century Plan’ ซึ่งประกอบด้วยรถยนต์ 7 รุ่นภายใน 7 ปี (7 years 7 products)

แอสตัน มาร์ติน ดีบีเอ็กซ์ตัวถังผ่านการออกแบบให้ฉีกหนีตัวถังทรงกล่องของเอสยูวีทั่วไป ดูเซ็กซี่และหรูหรา ผสานเสน่ห์อันมีมนต์ขลังด้วยโลโก้สัญลักษณ์รูปปีก หรือ ‘wing badge’ ซึ่งเป็นงานแฮนด์เมดจากผู้ผลิตจิวเวลรี่สุดหรู ประสบการณ์กว่า 200 ปี เดย์ไทม์รันนิ่งไลท์ดีไซน์โฉบเฉี่ยวแฝงความสปอร์ต พร้อมช่องดักอากาศเพื่อระบายความร้อนจานเบรก ประตูปีกหงส์แบบ wrap around ป้องกันเสื้อผ้าเปื้อนขณะก้าวจากลงรถ สัดส่วนหน้า-หลังสมดุล 50:50 ลงตัวกับ ล้อแม็กของ 22 นิ้ว ยางพิเรลลี่ P ZERO หน้า 285/40 R22 หลัง 325/35 R22 

ห้องโดยสารยังคงบุคลิกที่เป็นเอกลักษณ์ของ แอสตัน มาร์ติน ด้วยการดีไซน์ที่ประณีตและพิถีพิถัน กว้างขวางหรูหรา เพิ่มแสงสว่างในห้องโดยสาร ด้วยหลังคาพาโนรามิกซันรูฟและประตูไร้กรอบกระจก ตกแต่งด้วยอะลูมิเนียมและหนังแท้ full natural grain ‘Caithness’ ที่มีกลิ่นหอมและผิวเรียบเนียน คอนโซลกลางออกแบบอย่างงดงาม มีลักษณะคล้ายสะพาน เชื่อมต่อไปยังส่วนกลางของแดชบอร์ด เพิ่มความสะดวกสบายผ่านจออเนกประสงค์ขนาด 10.25 นิ้ว รองรับ Apple Car Play พร้อมกล้องมองภาพ 360 องศา และไฟเพิ่มบรรยากาศในห้องโดยสาร ที่สามารถปรับได้ถึง 64 เฉดสี

ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินทวินเทอร์โบ วี8 สูบ 4.0 ลิตร 550 แรงม้า (PS) แรงบิด 700 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ พร้อมโหมด Sport เพิ่มการตอบสนอง ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.5 วินาที ท็อปสปีด 291 กม./ชม. มั่นใจในเรื่องประสิทธิภาพการขับ ด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เฟืองท้ายควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ผสานช่วงล่างดับเบิลวิชโบนและถุงลม Adaptive Triple Air Suspension ปรับความสูงได้หลายระดับ พร้อม 5 โหมดการขับ คือ Terrain+, Terrain, GT, S และ S+แอสตัน มาร์ติน ดีบีเอ็กซ์ ราคาเริ่มต้น 19.9 ล้านบาท

AUDI

จากแรงหนุนต่อเนื่องของ อาวดี้ เอจี  เพื่อสร้างแบรนด์อาวดี้ในประเทศไทยให้แข็งแกร่งจึงไม่น่าแปลกใจที่แฟน4ห่วงในบ้านเราจะได้ยลโฉมตัวแรงรุ่นล่าสุดจากอาวดี้เข้ามาเปิดตัวทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด อาวดี้ เอจี ไฟเขียวส่งฝูงตัวแรงในค่ายลงเวที บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งนี้กว่า 10 รุ่น

โดยไฮไลท์อยู่ที่ฝูง อาร์เอส โมเดลนำโดย Audi TT RS Coupé เครื่องยนต์แถวเรียง 5 สูบ TFSI  400 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร อัตราเร่ง จาก 0 – 100 กม./ชม. ใช้เวลา 3.7 วินาที ขณะที่เสียงเครื่องยนต์ที่เป็นเอกลักษณ์มาพร้อมระบบท่อไอเสียแบบ RS sports Exhaust ผ่านการออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อถ่ายทอดเสียงของเครื่องยนต์ได้อย่างเร้าใจ ช่วงล่างแบบสปอร์ตพร้อมระบบ Audi magnetic ride ราคาค่าตัว 5.299 ล้านบาทรวมถึงหากไม่มีอะไรผิดพลาดภายในงานอาวดี้มีแผนจำหน่าย RS model อีก 2 รุ่น ที่ได้เปิดราคาไปแล้วมาอวดโฉมด้วย คือ Audi RS Q8 อีกยนตรกรรมเรือธงของ RS โมเดล ราคา 10.899  ล้านบาท และ Audi RS 4 Avant ราคา 5.899 บาท 

นอกจากนี้ยังมีทัพอาวดี้ ดีกรีความงามพร้อมแนะนำอีกหลายรุ่นไม่ว่าจะเป็น 

-The New Audi A5 พรีเมียมลักซ์ชัวรีสปอร์ตคาร์สให้เลือกถึง 4 รุ่นย่อยราคาเริ่มต้น 2.699 ล้านบาท  

-The New Audi Q7 พรีเมียมเอสยูวี เครื่องยนต์ดีเซล 2 รุ่นย่อย Q7 45 TDI quattro S line ราคา 5.299 ล้านบาท และ Q7 45 TDI quattro ราคา 4.849 ล้านบาท

-The New Audi A6 ทั้งรุ่น Sedan และรุ่น Avant ซึ่ง A6 40 TFSI S line เป็นการเปิดตัวเป็นครั้งแรกในประเทศไทย A6 40 TFSI S line และ A6 Avant 40 TFSI S line ทั้ง 2 รุ่น มีราคาเท่ากันที่ 3.399 ล้านบาท

-ปิดท้ายด้วยรถยนต์ไฟฟ้า 100% Audi e-tron

สำหรับแคมเปญพิเศษในงานมีให้เลือกตามนี้

  1. เลือกระหว่าง ดาวน์ 0 บาท หรือ โปรแกรมผ่อนสบายๆ ดอกเบี้ย 0% นาน 7 ปี ***ไม่มีบอลลูน อาทิเช่น A1,   A4 Avant, A8 L, Q2, Q5, Q8, TT Coupé, TT Roadster และ TTS 
  2. โปรแกรมผ่อนสบายๆ 0% สูงสุดนาน 5 ปี ***ไม่มีบอลลูน อาทิเช่น Q3, Q7, A6 Avant 45 และ A7

BMW

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย สานต่อเป้าหมายในการก้าวสู่อนาคตแห่งโลกยานยนต์ ด้วยทัพรถยนต์ใหม่จากบีเอ็มดับเบิลยูในงานซึ่งนอกจากรถยนต์รุ่นใหม่และข้อเสนอสุดพิเศษแล้ว ยังได้สัมผัสอีกระดับของประสบการณ์มอเตอร์โชว์ ทั้งพื้นที่จัดแสดงที่มีมาตรการด้านสุขอนามัยครบถ้วน และประสบการณ์แบบดิจิทัลที่ครบทุกมุมมองและโต้ตอบได้ ให้ทุกคนได้สัมผัสอย่างสะดวกสบายและปลอดภัยจากที่บ้าน สำหรับไฮไลท์รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูมนงานมีดังนี้

บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่ ผสมผสานระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ xDrive และระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า eDrive ของบีเอ็มดับเบิลยูเข้ากันอย่างลงตัว เพื่อมอบความเพลิดเพลินในการขับขี่ควบคู่ความยั่งยืนอย่างสมบูรณ์ บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่ มาพร้อมกับระบบปลั๊กอินไฮบริดที่ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2 ลิตร มอบกำลังสูงสุดที่ 135 กิโลวัตต์ / 184 แรงม้า พร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo และมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบ Sport Steptronic

มอบกำลังขับจากระบบไฟฟ้าสูงสุดที่ 80 กิโลวัตต์ / 109 แรงม้า โดยส่งพลังลงสู่ล้อทั้งสี่อย่างเต็มพิกัดเพื่อตอบทุกโจทย์การขับขี่อย่างแท้จริง รวมถึงการขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้าเต็มรูปแบบ การประหยัดน้ำมัน และการลดมลภาวะเมื่อนับรวมกันแล้ว เครื่องยนต์ขุมพลังเบนซิน 4 สูบ และมอเตอร์ไฟฟ้าของรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นนี้สามารถส่งกำลังรวมสูงสุดได้ถึง 215 กิโลวัตต์ / 292 แรงม้า และยังช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงให้ ลงมาที่ระดับ 35.7 กิโลเมตรต่อลิตร บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่ (รุ่นประกอบในประเทศ) ราคาจำหน่าย: 3,659,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)

บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive45e M Sport เจเนอเรชั่นที่ 4 ของบีเอ็มดับเบิลยู X5 ทั้งในรูปแบบปลั๊กอินไฮบริดและเครื่องยนต์ดีเซล บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive45e M Sportราคาจำหน่าย: 4,999,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard) บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive45e M Sport ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ 3.0 ลิตร BMW TwinPower Turbo ที่มอบพลังถึง 210 กิโลวัตต์ / 286 แรงม้า ควบคู่ไปกับความปราดเปรียวที่ได้จากเทคโนโลยีบีเอ็มดับเบิลยู EfficientDynamics และเจเนอเรชั่นที่ 4 ของเทคโนโลยีบีเอ็มดับเบิลยู eDrive สุดล้ำ มอเตอร์ไฟฟ้าส่งกำลังสูงสุดที่ 83 กิโลวัตต์ / 113 แรงม้า ตัวแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนจุพลังงานไฟฟ้าได้กว่า 24 กิโลวัตต์-ชั่วโมง

ส่วนบีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive30d M Sport ขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบ Steptronic ทำงานคู่กับเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ส่งกำลังสูงสุด 195 กิโลวัตต์ / 265 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 620 นิวตันเมตรที่ 2,000-2,500 รอบต่อนาที ส่งพลังให้เร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 6.5 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive30d M Sport ราคาจำหน่าย: 4,699,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)

บีเอ็มดับเบิลยู 320d GT Sport ผสมผสานพื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างขวางของรถยนต์สปอร์ตซีดานและความจุสัมภาระของรถยนต์อเนกประสงค์ไว้ได้อย่างลงตัว เพลิดเพลินในการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ BMW TwinPower Turbo ให้กำลังสูงสุด 140 กิโลวัตต์/190 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที สามารถเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 7.7 วินาที ด้วยความเร็วสูงสุด 226 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำงานคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 27.0 กิโลเมตรต่อลิตร ขณะที่ระดับการปล่อยก๊าซ CO2 อยู่ที่ 99 กรัมต่อกิโลเมตร บีเอ็มดับเบิลยู 320d GT Sport ราคาจำหน่าย: 2,299,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและแพ็คเกจ BSI Standard)

ข้อเสนอพิเศษในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 41

ลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูที่จองรถยนต์พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Ultimate Package ระหว่างงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 41 และรับส่งมอบรถยนต์ภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 จะได้รับสิทธิประโยชน์* ดังนี้

  • ขยายเวลาโปรแกรมบำรุงรักษา BSI เป็น 6 ปี/120,000 กม.
  • รับประกันไม่จำกัดระยะทาง 6 ปี
  • สมาชิกบริการ BMW Mobility Services 6 ปี

FORD

งานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้นับเป็นงานที่สร้างความตื่นเต้นให้แก่อุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ สำหรับฟอร์ด ยังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนตลาดรถยนต์ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ด้วยการนำเสนอรถยนต์ที่โดนใจผู้บริโภค รวมถึง ข้อเสนอสุดพิเศษและสิทธิประโยชน์ต่างๆ สำหรับรถทุกรุ่น ทำให้ช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่คุ้มค่าที่สุดในการตัดสินใจเป็นเจ้าของรถยนต์ฟอร์ดงานนี้ฟอร์ดยกทัพรถยนต์สุดยอดสมรรถนะครบ

ฟอร์ด เรนเจอร์ มีตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานอันหลากหลายทั้ง รุ่นท็อปที่ครบเครื่องเทคโนโลยีสุดล้ำ อย่าง ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค, ฟอร์ด เรนเจอร์ ลิมิเต็ด รุ่นโดดเด่นสไตล์สปอร์ตอย่าง ฟอร์ด เรนเจอร์ FX4 หรือรุ่นยอดนิยมอย่าง XLT ไปจนถึงรุ่นสำหรับการใช้งาน อย่าง XL และ XLS

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ยอดรถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูง อัดแน่นไปด้วยดีเอ็นเอของฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ ขุมพลังเทอร์โบคู่ 2.0 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมสีล่าสุด Performance Blue 

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ยอดรถยนต์อเนกประสงค์ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเรื่องประสิทธิภาพและปลอดภัย ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ ห้องโดยสารที่หรูหราและสะดวกสบายทั้งบนทางเรียบและออฟโรด มีให้เลือก5 รุ่น

ฟอร์ด มัสแตง รถสปอร์ตระดับตำนาน ที่สุดแห่งสมรรถนะ และเทคโนโลยีช่วยขับขี่ เครื่องยนต์อันทรงพลัง 2 รุ่น ได้แก่ 5.0L V8 GT Coupe Performance Pack และ 2.3L EcoBoost Coupe Performance Pack

ข้อเสนอพิเศษในงาน 

  • ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ทุกรุ่น : อัตราดอกเบี้ย 0 % ดาวน์ 30% ผ่อนนาน 48 เดือน พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง และ โปรแกรมรับประกันเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง 10 ปี หรือ 150,000 กม.
  • ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ : ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Ford Ensure และ โปรแกรมรับประกันเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง 10 ปี หรือ 150,000 กม.
  • ฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่น ไวลด์แทรค : อัตราดอกเบี้ย 0% ดาวน์ 30% ผ่อนนาน 48 เดือน ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง และ โปรแกรมรับประกันเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง 10 ปี หรือ 150,000 กม.
  • ฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่น ลิมิเต็ด : อัตราดอกเบี้ย 0.99% ดาวน์ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง และ โปรแกรมรับประกันเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง 10 ปี หรือ 150,000 กม.
  • ฟอร์ด เรนเจอร์ XLT : ราคาพิเศษเพียง 759,000 บาท ผ่อนชำระเพียงเดือนละ 8,369 บาท 
  • ฟอร์ด เรนเจอร์ XL+ : ราคาพิเศษเพียง 569,000 ผ่อนชำระเพียงเดือนละ 6,309 บาท

HONDA

ฮอนด้า โชว์ไฮไลต์ ซีอาร์-วี ใหม่ และปรับบูทสไตล์ใหม่รับ New Normal ในงานมอเตอร์โชว์ 2020 ครั้งแรกกับการเปิดช่องทางเยี่ยมชมบูทแบบ 360 องศา และพูดคุยกับที่ปรึกษาการขายผ่านออนไลน์ พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษโดยรถยนต์รุ่นไฮไลต์ในครั้งนี้ ได้แก่ ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ ซึ่งเปิดตัวในประเทศไทยเป็นที่แรกในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย อีกทั้งได้เผยโฉมครั้งแรกภายในงานฯ ร่วมด้วยยนตรกรรมยอดนิยม ฮอนด้า ซิตี้ เทอร์โบ ใหม่ และ ฮอนด้า ซีวิค สีใหม่ สีแดงอิกไนต์ ในรุ่น TURBO RS และยนตรกรรมฮอนด้าหลากหลายรุ่นที่มาพร้อมข้อเสนอพิเศษในการเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น 

ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ ยนตรกรรมพรีเมียมเอสยูวีที่มาพร้อมความสปอร์ตหรูหราและความแข็งแกร่งในทุกมิติ ดีไซน์ภายนอกยกระดับความสปอร์ตรอบคัน ตอกย้ำความพรีเมียมยิ่งขึ้นด้วยหลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) พร้อมระบบเปิด-ปิดแบบ One-Touch เพิ่มเสน่ห์ด้วยไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential เสริมความมั่นใจในทุกการเดินทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) และนวัตกรรมเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) ครบครันด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกสบายล้ำสมัยระดับพรีเมียม ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบายตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้งานทั้งแบบ 7 ที่นั่งและ 5 ที่นั่ง มาพร้อม 2 ขุมพลังการขับเคลื่อนทั้งเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร i-DTEC DIESEL TURBO และเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร DOHC i-VTEC พร้อม

ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (4WD) โดยมีให้เลือกทั้งหมด 5 รุ่น ได้แก่

  • เครื่องยนต์ดีเซล รุ่น DT-EL 4WD 7 ที่นั่ง ราคา 1,759,000 บาท
  • เครื่องยนต์เบนซิน รุ่น 2.4 EL 4WD 7 ที่นั่ง ราคา 1,579,000 บาท
  • เครื่องยนต์เบนซิน รุ่น 2.4 E  7 ที่นั่ง ราคา 1,419,000 บาท
  • เครื่องยนต์เบนซิน รุ่น 2.4 ES 4WD 5 ที่นั่ง ราคา 1,529,000 บาท
  • เครื่องยนต์เบนซิน รุ่น 2.4 S 5 ที่นั่ง ราคา 1,369,000 บาท

มาพร้อมสีใหม่ สีน้ำเงินคอสมิก (เมทัลลิก) พร้อมด้วยข้อเสนอพิเศษ เลือกรับดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% หรือข้อเสนอ “Double Smile” ผ่อนเริ่มต้นเพียงเดือนละ 18,000 บาท พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี

รถยนต์ฮอนด้าในงานแต่ละรุ่นมาพร้อมข้อเสนอพิเศษในแคมเปญ “Honda Easy Deal Easy Life” ให้ลูกค้าเป็นเจ้าของรถยนต์ฮอนด้าได้ง่ายขึ้น ด้วยดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 0% หรือฮอนด้าช่วยผ่อน และข้อเสนออื่นๆ อีกมากมาย สำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์ฮอนด้าภายในงานฯ ระหว่างวันที่ 15-26 กรกฎาคม 2563 (รอบบุคคลทั่วไป) และมอบข้อเสนอเดียวกันเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าที่จองและรับรถที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1-31 กรกฎาคม 2563 

HYUNDAI

ที่บูทฮุนไดปีนี้ไม่มีอะไรใหม่ได้จัดแสดงรถยนต์อเนกประสงค์ที่ขายดีที่สุดของค่าย ฮุนได เอช-วันและแกรนด์ สตาร์เร็กซ์ พร้อมกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเพื่อสิ่งแวดล้อม ฮุนได โคน่า และไอออนิค แม้ว่า ฮุนได ต้องการจะนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ หรือเทคโนโลยีใหม่ๆในครั้งนี้ แต่มันเป็นไปได้ยากเนื่องจากสถานการณ์ทั่วโลกและข้อจำกัดของการดำเนินธุรกิจก่อนหน้านี้ที่ส่งผลให้ต้องมีการปรับแผนงานและมีข้อต้องระวังมากกว่าภาวะปกติ ฮุนได เห็นว่ายังมีความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่มองหารถใหม่ ฮุนได จึงได้ใช้โอกาสนี้ในการนำเสนอข้อเสนอที่จัดว่าเป็นโปรโมชั่นที่พิเศษที่สุดเท่าที่เคยมีมาให้ลูกค้าของ ฮุนได ด้วยการนำเสนอ

ฮุนได เอช-วัน และแกรนด์ สตาร์เร็กซ์ โฉมปี 2020 ได้รับการปรับรูปลักษณ์ภายนอกและภายในภายใต้แนวคิด โมเดิร์นพรีเมี่ยม หรือหรูหราและทันสมัยตอบโจทย์ทุกการเดินทาง ราคาเริ่มต้นที่คุ้มค่า 1,329,000 บาท ในส่วนของรายละเอียดข้อเสนอสำหรับลูกค้าที่สนใจเป็นเจ้าของเอช-วัน สามารถเลือกรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0 เปอร์เซ็นต์ นาน 60 เดือน หรือเลือกรับขับฟรี 90 วัน ดาวน์ต่ำเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ผ่อนนาน 84 เดือน พร้อมคูปองบำรุงรักษานาน 60 เดือนและบัตรน้ำมันมูลค่า 50,000 บาท นอกเหนือจากข้อเสนอดังกล่าว ลูกค้ายังได้รับประกันภัยชั้นหนึ่งนาน 1 ปี รับประกันคุณภาพนาน 60 เดือน ช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมงนาน 5 ปี นอกจากนี้ ยังได้จัดข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่ใช้รถยนต์ฮุนไดทุกรุ่น รับส่วนลดเพิ่มอีก 20,000 บาทเมื่อเลือกซื้อรถยนต์ฮุนไดรุ่นใดก็ได้ 

ISUZU

ครั้งแรกกับการจัดแสดงรถตามวิถี New Normalอีซู ซุจัดเต็มให้ ออลนิว อีซูซุ ดีแมคซ์ ปิกอัพที่ว่ากันว่าที่ร้อนแรงที่สุดในด้านการตอบรับอย่างท่วมท้นจากผู้ใช้รถในเมืองไทยแม้ในช่วงวิกฤต COVID-19 พร้อมด้วยรถอเนกประสงค์สุดหรู อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ เดอะ นิว ออนิคซ์ มาพร้อมชุดแต่งอเนกประสงค์เติมเต็มการใช้ชีวิตของผู้ใช้รถรุ่นใหม่

ในงาน ภายใต้คอนเซ็ปต์ The TOUCH ผสานกับแนวคิด Infinite Potential สะท้อนการเปลี่ยนแปลงทั้งโชว์รูมและศูนย์บริการอีซูซุรูปโฉมใหม่ในโทนสีเทา-แดงพร้อมยกระดับการบริการด้านต่าง ๆ  ให้ดียิ่งขึ้น

ภายในงานอีซูซุนำยนตรกรรมหลากหลายรุ่นเข้าร่วมงานประกอบด้วย 

ออลนิว อีซูซุดีแมคซ์

ออลนิว อีซูซุดีแมคซ์ วี-ครอส 4×4 

ออลนิว อีซูซุดีแมคซ์ แค็บโฟร์ เอส

อีซูซุดีแมคซ์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ เซฟตี้คาร์

อีซูซุมิว-เอ็กซ์ รุ่นใหม่! เดอะ นิว ออนิคซ์

JAGUAR & LAND ROVER

ที่บูท JAGUAR & LAND ROVER โดย บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 41 จะได้พบกับแลนด์โรเวอร์ ดีเฟนเดอร์ ใหม่ (All-New Land Rover Defender) ด้วยตำนานยาวนานกว่า 70 ปีของการลุยทุกภูมิประเทศบนโลก ราคาเริ่มต้น 5,400,000 บาท

สำหรับแลนด์โรเวอร์ ดีเฟนเดอร์ รุ่น 3 ประตู (รุ่น 90) และราคาเริ่มต้น 5,800,000 บาท สำหรับแลนด์โรเวอร์ ดีเฟนเดอร์ รุ่น 5 ประตู (รุ่น 110) พร้อมคอนเซ็ป “MAKE IT YOUR DEFENDER” ให้คุณปรับแต่งเพื่อแสดงตัวตนในแบบของคุณ และความสะดวกมากขึ้นด้วยระบบการสั่งซื้อผ่าน Online Car Configurator การออกแบบ-เลือกอุปกรณ์รถยนต์ตามความต้องการ ด้วยโปรแกรมภาพจำลองเสมือนจริงผ่านทางออนไลน์ ที่สามารถแสดงราคาทุกออปชั่นให้เลือกได้อย่างชัดเจน

ด้านรถยนต์จากัวร์ พบกับผลงานศิลปะที่สะท้อนเอกลักษณ์ของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า จากัวร์ ไอ-เพซ (Jaguar I-Pace) การนำเสนอสมรรถนะที่ยั่งยืนผ่านงานศิลปะ ที่ออกแบบโดย Pomme Chan ธัชมาพรรณ จันทร์จำรัสแสง ศิลปินมากฝีมือในวงการศิลปะร่วมสมัย ด้วยผลงานการออกเเบบที่เต็มไปด้วยจินตนาการและลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์

แนวคิดในการออกแบบผลงานได้แรงบันดาลใจมาจากการออกแบบรถยนต์จากัวร์ ไอ-เพซ ด้วยกระจังหน้ารถได้รับการพัฒนาให้เข้ากับรูปทรงตามหลักอากาศพลศาสตร์อย่างดีเยี่ยม การใช้ช่องลมฝากระโปรงหน้าเพื่อให้กระแสลมไหลผ่านออกสู่กระจกหน้ารถ แล้วขึ้นสู่เส้นขอบหลังคาสไตล์รถคูเป้เพื่อลดแรงต้าน พบกับความโดดเด่นของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า จากัวร์ ไอ-เพซ ได้ที่งานมอเตอร์โชว์

ข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์ ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 41 ระหว่างวันที่ 15 – 26 กรกฎาคม 2563

-Jaguar I-Pace ดอกเบี้ย 0% นาน 4 ปี พร้อมฟรี Wallbox สำหรับรองรับการชาร์จไฟรถยนต์ที่บ้าน

-Jaguar F-Type, Jaguar F-Pace, Jaguar XE, Jaguar XF, Jaguar XJ ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี

-Land Rover ทุกรุ่น รับฟรีคอร์สฝึกอบรมการขับขี่ออฟโรด Land Rover Off-Road Experience -Driving School ให้คุณขับขี่อย่างมั่นใจและปลอดภัยในทุกเส้นทาง

-Jaguar และ Land Rover ทุกรุ่น รับแคมเปญ “Worry-Free Program” ให้ความคุ้มค่ากับการรับประกันนาน 5 ปี บริการซ่อมบำรุงฟรี 5 ปี และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี

KIA

บริษัท ยนตรกิจ เกีย มอเตอร์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์เกียในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ต้อนรับการผ่อนคลายล็อคดาวน์ พร้อมช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินของลูกค้าด้วยข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับลูกค้าที่จอง เกีย แกรนด์ คาร์นิวัล ในงาน และเพื่อเป็นการกระตุ้นตลาดในช่วงงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 41 พร้อมช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินของลูกค้า เกีย จึงได้ออกข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองเกีย แกรนด์ คาร์นิวัล รุ่น EX และ SXL ตั้งแต่วันนี้ – 31 กรกฏาคม 2563 นี้ โดยสามารถเลือกรับข้อเสนอพิเศษทางการเงินที่ตรงกับความต้องการได้ดังนี้*

  • ฟรีดอกเบี้ย! 0% นาน 48 เดือน หรือ
  • ผ่อนน้อย ผ่อนสบาย เริ่มต้นเพียงเดือนละ 21,299 บาท หรือ
  • ขับปีนี้ ผ่อนปีหน้า (ขับฟรีสูงสุดนาน 180 วัน)

ทั้งยังจะได้รับข้อเสนอพิเศษเพิ่มเติม ดังต่อไปนี้

  • ฟรี! คูปองเช็คระยะนาน 3 ปี หรือ 60,000 กม. (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
  • ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
  • ฟรี! การรับประกันคุณภาพวารันตีนาน 5 ปี หรือ 150,000 กม. (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
  • ฟรี! ช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชม. นาน 5 ปี
  • ฟรี! ชุดแต่งบันไดข้างแท้จากเกาหลี

นอกเหนือจากข้อเสนอพิเศษสำหรับเกีย แกรนด์ คาร์นิวัลรุ่น EX และ SXL แล้ว เกียยังได้เปิดรับจองรุ่น LX ซึ่งเป็นรุ่นเริ่มต้นที่นำเข้าจากฐานการประกอบในเขตอาเซียนอีกครั้ง และลูกค้าทุกท่านยังมีโอกาสได้สัมผัสกับเกีย แกรนด์ คาร์นิวัลทั้ง 3 รุ่นย่อย รวมถึง ออล นิว โซล อีวี รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% และ K2500 รถบรรทุกเล็กเพื่อการพาณิชย์ ภายในงานครั้งนี้ด้วย

LAMBORGHINI

บริษัท เรนาสโซ มอเตอร์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ลัมโบร์กินีอย่างเป็นทางการรายเดียวในประเทศไทย นำรถซูเปอร์สปอร์ตคาร์ระดับโลกมาให้แฟนพันธุ์แท้ลัมโบร์กินี รวมถึงผู้ที่ชื่นชอบซูเปอร์สปอร์ตคาร์ในประเทศไทยได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด ทั้ง Lamborghini Aventador (ลัมโบร์กินี อะเวนทาดอร์), Huracan (ฮูราแคน) และ Urus (อูรุส) โดยทุกรุ่นมีดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์และมีสมรรถนะที่เร้าใจ ตอกย้ำดีเอ็นเอความเป็นแบรนด์สุดยอดรถซูเปอร์สปอร์ตคาร์หรูระดับโลก ในงาน โดยแต่ละรุ่นมีรายละเอียดดังนี้

Lamborghini Huracán EVO RWD Spyder (ลัมโบร์กินี ฮูราแคน อีโว เรียวีลไดร์ฟ สไปเดอร์)

ซูเปอร์สปอร์ตคาร์ขับเคลื่อนล้อหลังแบบเปิดประทุนเครื่องยนต์ V10 รุ่นใหม่ล่าสุด ใช้หลักการออกแบบทางวิศวกรรมให้ตัวรถมีน้ำหนักเบา ให้สมรรถนะเต็มที่ในทุกสภาวะการขับขี่ด้วยระบบ Performance Traction Control System (P- TCS) หลังคาเปิดหรือปิดที่มาพร้อมเอกลักษณ์เสียงคำรามของเครื่องยนต์ V10 ที่ขับเคลื่อนตัวรถไปข้างหน้าอย่างไร้ขีดจำกัด ขับเคลื่อนด้วยพละกำลัง 610 แรงม้า และแรงบิด 560 นิวตันเมตร ซึ่งถูกส่งตรงไปที่ล้อคู่หลังเพื่ออรรถรสสูงสุดแห่งการขับขี่ Huracán EVO RWD Spyder มีอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลาเพียง 3.5 วินาที และยังสามารถเร่งความเร็วได้สูงสุดถึง 324 กิโลเมตร/ชั่วโมง

Huracán EVO RWD Spyder มีวัสดุตัวถังที่แข็งแรงซึ่งผสมผสานด้วยวัสดุผสมระหว่างอลูมิเนียมและคาร์บอนไฟเบอร์ ด้วยน้ำหนักตัวที่เบาเพียง 1,509 กิโลกรัม จึงทำให้มีแรงม้าต่อน้ำหนักที่ 2.47 กิโลกรัม / แรงม้า ระบบเบรกเป็นแบบเหล็กที่มาพร้อมจานเจาะรูและครีบระบายความร้อน ล้อขนาด 19 นิ้วเป็นมาตรฐาน ยาง Pirelli P Zero สเปคพิเศษที่มี L-mark โดยผู้ขับขี่สามารถเลือกเพิ่มออพชั่นล้อเป็นขนาด 20 นิ้ว หรืออัพเกรดระบบเบรกแบบเซรามิค

Huracán EVO RWD Spyder มาพร้อมเครื่องยนต์ V10 ไร้ระบบอัดอากาศตามแบบฉบับของ Lamborghini แต่ปรับเปลี่ยนดีไซน์ทางด้านหน้าและหลังเพื่อสร้างแรงกด (Downforce) ให้กับรถมากยิ่งขึ้นเมื่อใช้ความเร็วสูง หลังคาผ้าใบของ Huracan EVO RWD Spyder สามารถเปิด-ปิดได้ภายในเวลาเพียง 17 วินาที แม้ขณะขับขี่โดยความเร็วไม่เกิน 50 กม./ชม. จอกลางควบคุมตัวรถแบบ HMI ขนาด 8.4 นิ้ว ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถจัดการกับตัวรถและระบบอินโฟเทนเมนต์ต่างๆ รวมไปถึงระบบ Apple Carplay สำหรับราคาของ Huracán EVO RWD Spyder เริ่มต้นที่ 21,800,000 บาท

Lamborghini Aventador SVJ Roadster (ลัมโบร์กินี อเวนทาดอร์ เอสวีเจ โรดสเตอร์)

มาพร้อมกับประสบการณ์ขับขี่แบบ open air ที่สมบูรณ์แบบที่สุด โดยใช้เครื่องยนต์ V12 ขนาด 6.5 ลิตร ที่สามารถรีดพละกำลังสูงสุดถึง 770 แรงม้า ช่วยให้ทะยานจาก 0-100 ภายในเวลาเพียง 2.9 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 350 กม./ ชม. นอกจากสมรรถนะเครื่องยนต์ที่ยอดเยี่ยมแล้ว อเวนทาดอร์ เอสวีเจ โรดสเตอร์ มาพร้อมกับระบบอากาศพลศาสตร์ ALA (Aerodynamica Lamborghini Attiva) 2.0 ที่ถูกพัฒนาให้ทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้นและมีประสิทธิภาพในการจัดการอากาศได้ดีกว่ารุ่น อเวนทาดอร์ เอสวี โรดสเตอร์ ถึง 40%

สำหรับหลังคาของ อเวนทาดอร์ เอสวีเจ โรดสเตอร์นั้น ทำจากวัสดุคาร์บอน ไฟเบอร์เพื่อโครงสร้างที่แข็งแรงและมีน้ำหนักเบาตามสไตล์ของลัมโบร์กินี ซึ่งสามารถจัดเก็บได้ภายใต้ฝากระโปรงด้านหน้าของตัวรถเมื่อต้องการเปิดประทุน ตัวรถมีน้ำหนักเพียง 1,575 กิโลกรัม ซึ่งมากกว่า อเวนทาดอร์ เอสวีเจ เพียง 50 กก.เท่านั้นทั้งนี้ อเวนทาดอร์ เอสวีเจ โรดสเตอร์ ถูกจำกัดจำนวนการผลิตไว้เพียง 800 คันทั่วโลก ส่งผลให้อเวนทาดอร์ เอสวีเจ โรดสเตอร์ เป็นกระทิงเปลี่ยวที่ดุดันที่สุดในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ลัมโบร์กินี ราคาเริ่มต้นที่ 48,980,000 บาท

Lamborghini Huracán EVO (ลัมโบร์กินี ฮูราแคน อีโว)

ซูเปอร์สปอร์ตคาร์ เครื่องยนต์ V10 Naturally-aspirated อันทรงพลังและได้รับการถ่ายทอดสมรรถนะการขับขี่มาจาก Lamborghini Huracan Performante (ลัมโบร์กินี ฮูราแคน เพอร์ฟอร์มานเต้) ด้วยพละกำลังสูงสุด 640 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร ช่วยให้ Huracán EVO ทะยานจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 2.9 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้มากกว่า 325 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ดีไซน์ตัวถังด้วยอลูมิเนียมผสมกับคาร์บอนไฟเบอร์ ทำให้ตัวรถมีน้ำหนักเพียง 1,422 กิโลกรัม ช่วยให้ระยะเบรกจาก 100-0 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีระยะเพียง 31.9 เมตรเท่านั้น โดย ฮูราแคน อีโว มาพร้อมระบบ LDVI ที่สามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวของตัวรถ พร้อมควบคุมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและระบบเลี้ยวสี่ล้อ เพื่อการตอบสนองที่รวดเร็วและขับขี่ง่ายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีระบบ Infotainment (อินโฟเทนเมนท์)ใหม่ที่มาพร้อมฟีเจอร์การเชื่อมต่อมากยิ่งขึ้น เพื่อวิวัฒนาการเหนือระดับสู่สุนทรียภาพแห่งการขับขี่สูงสุด

Lamborghini Urus (ลัมโบร์กินี อูรุส)

Super SUV คันแรกของโลก ที่ถ่ายทอด DNA ของลัมโบร์กินีอย่างแท้จริง ผสมผสานกับความเอนกประสงค์ของรถ SUV ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยสมรรถนะอันทรงพลัง ที่มาพร้อมกับนิยามว่า “SINCE WE MADE IT POSSIBLE” ด้วยเครื่องยนต์ V8 Twin-turbo ให้พละกำลัง 650 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 850 นิวตันเมตร ที่มาตั้งแต่รอบต่ำ ส่งผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ไปยังระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ ชม. ในเวลาเพียง 3.6 วินาที และทำความเร็วสูงสุดกว่า 300 กม./ ชม.

ดังนั้น อูรุสจึงมาพร้อมจานเบรกแบบคาร์บอนเซรามิกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยขนาด 440 มม. ในด้านหน้า และขนาด 370 มม.ในด้านหลัง ทำให้ระยะเบรกจาก 100-0 กม./ ชม. มีระยะเพียง 33.7 เมตรเท่านั้น ทั้งนี้ ผู้ขับขี่ยังสามารถควบคุมความดุดันของอูรุสผ่าน Tamburo – Lamborghini driving dynamics control ได้ถึง 4 โหมด และยังปรับแต่งรูปแบบการขับขี่ได้ตามความต้องการของผู้ขับขี่ผ่าน EGO mode นอกจากนี้ ยังสามารถติดตั้งโหมดพิเศษเพิ่มเติม อย่างโหมด Terra (ออฟโรด) และโหมด Sabbia (ทะเลทราย) ที่ช่วยให้ทุกเส้นทางเป็นเรื่องสนุก

LEXUS

ที่บูทเลกซัส จัดขึ้นภายใต้แนวคิด Experience Amazing สะท้อนภาพลักษณ์ในแบบฉบับ Luxury Lifestyle Brand นำเสนอความล้ำสมัยในการออกแบบและความประณีตในทุกรายละเอียดตามแบบฉบับช่างหัตถศิลป์ญี่ปุ่น(Takumi Craftsmanship) พร้อมสัมผัสยนตรกรรมลักซ์ชัวรี่แวนใหม่ล่าสุด เลกซัส LM รวมทั้งยนตรกรรมเลกซัสหลากหลายรุ่น โดยมี ไฮไลท์ ในงานดังนี้

The All-New Lexus LM A New Space for Luxury

ลักซ์ชัวรี่แวนรุ่นล่าสุดจาก Lexus ผลงานที่แสดงออกถึงความประณีตและพิถีพิถันในการออกแบบ ผสานความสร้างสรรค์และความสง่างาม มาพร้อมกับนวัตกรรมความสะดวกสบายและเทคโนโลยีระดับสูง โดยถูกรังสรรค์ภายใต้แนวคิด “Mobile Private Lounge”มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร ระบบไฮบริด

ราคา (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

Lexus LM300h Executive 7-seater 5,500,000 บาท

Lexus LM300h Executive 4-seater 6,500,000 บาท

Lexus RX Unbounded Pleasure 

SUV หรูระดับโลก มาพร้อมกับรูปลักษณ์ภายนอกที่โฉบเฉี่ยวแต่ดุดัน ภายในสง่างาม ประณีต ห้องโดยสารกว้างขวาง นั่งสบาย เบาะหลังปรับเอนด้วยไฟฟ้า มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ Lexus RX ได้ชื่อว่าเป็นรถ SUV หรูที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าคนไทย รวมถึงลูกค้าทั่วโลก

ราคา (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

RX300 4,230,000 – 5,350,000 บาท

RX350 6,850,000 บาท

RX450h 7,640,000 บาท

Lexus NX The Urban Explorer

Lexus NX รถพรีเมียม เออเบิร์น ครอสโอเวอร์ สำหรับคนเมืองที่ต้องการความคล่องตัว ราคาคุ้มค่าที่ทุกท่านสามารถเป็นเจ้าของ ตอบโจทย์ชีวิตด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ถูกคิดมาเป็นอย่างดี โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ภายนอกสไตล์สปอร์ต

ราคา (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

NX300h รุ่น Luxury 2,940,000 บาท

NX300h รุ่น Grand Luxury         3,150,000 บาท

NX300h รุ่น Premium          3,560,000 บาท

NX300h รุ่น F SPORT         4,060,000 บาท

NX300 รุ่น Grand Luxury 3,450,000 บาท

NX300 รุ่น F SPORT แบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4,460,000 บาท

Lexus UX The Urban Disruptor

 Lexus UX รถคอมแพกต์ ครอสโอเวอร์ โดดเด่นด้วยเส้นสายที่เฉียบคม ภายในออกแบบอย่างพิถีพิถัน เพียบพร้อมไปด้วยฟังก์ชั่นการใช้งาน ที่ล้ำสมัยให้ความสะดวกสบายสูงสุดมาพร้อม เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร ระบบไฮบริด   กับสมรรถนะการขับขี่ที่ดี

ราคา (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

UX 250h รุ่น Luxury 2,500,000 บาท

UX 250h รุ่น Grand Luxury         2,700,000 บาท

UX 250h รุ่น F-Sport แบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 3,630,000 บาท

Lexus LS Amazing Statement

เลกซัส LS500h พัฒนาการเพื่อมอบประสบการณ์ความล้ำสมัยในการออกแบบ หรูหรา ใส่ใจในทุกรายละเอียด ผ่านมาตรฐานฝีมือการผลิตและความเอาใจใส่ขั้นสูงแบบญี่ปุ่น (Takumi Craftsmanship) LS500h มาพร้อมระบบไฮบริด เครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.5 ลิตร แรงเต็มสมรรถนะ ให้อัตราเร่งนุ่มนวล ควบคุมการทรงตัวได้อย่างมั่นใจ

ราคา (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

LS350  รุ่น Luxury 11,530,000 บาท 

LS500  รุ่น Executive 13,080,000 บาท

LS500h รุ่น Executive 14,500,000 บาท

LS500h รุ่น Executive Pleat 15,830,000 บาท

Lexus ES Of Peace and Power

Lexus ES 300h มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตรระบบไฮบริดและโครงสร้างสถาปัตยกรรมแบบใหม่ GA-K ทำให้ LEXUS ES 300h มีพละกำลังในการขับขี่ที่ดี ประหยัดน้ำมัน และมีเสถียรภาพในการขับขี่ที่ดีเยี่ยม Lexus ES มาพร้อมกับเทคโนโลยีความสะดวกสบายที่ครบครัน

ราคา (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

ES300h รุ่น Luxury        3,600,000 บาท

ES300h รุ่น Grand Luxury 3,770,000 บาท

ES300h รุ่น Premium 4,200,000 บาท

 พิเศษ สำหรับทุกท่านที่จองรถรุ่นที่ร่วมรายการภายในงาน รับทันที LEXUS EXCLUSIVE PACKAGE  โปรแกรมขยายระยะเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ LEXUS เป็น 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง มาพร้อมกับบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง บริการเลขาส่วนตัว ฟรีค่าแรงและอะไหล่ในการบำรุงรักษาตลอด 5 ปี โดยเงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

สำหรับทุกท่านที่จองรถยนต์เลกซัส รุ่นที่ร่วมรายการสามารถเลือกรับ 

– Omakase course

– บริการเคลือบแก้ว 

– หรือสินค้าลิขสิทธิ์ Crafted for Lexus นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น

MAZDA

มาสด้าเดินหน้าเข้างานมอเตอร์โชว์ 2020 เตรียมพร้อมเต็มที่ พร้อมแนะนำNEW MAZDA CX-3 ภายใต้แนวคิด “Leap Forward ให้ชีวิตไปอีกขั้น” ครอสโอเวอร์ที่ให้ความคุ้มค่าคุ้มราคา จากเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ 2.0 มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยและความสะดวกสบายเต็มคัน พร้อมยกทัพยนตรกรรมสกายแอคทีฟทุกรุ่นมาจัดแสดง เอาใจคนอยากเป็นเจ้าของรถสปอร์ตด้วยดอกเบี้ย 0%ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง ขยายการรับประกันคุณภาพเป็น 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร3 ฟรีค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร4 รับส่วนลดสูงสุด 100,000 บาท5 และข้อเสนอสุดพิเศษ

New Mazda CX-3มีให้เลือก 4 รุ่นดังนี้

  • รุ่น BASE: มาพร้อมอุปกรณ์ฟังก์ชั่นครบครัน ให้ความคุ้มค่าคุ้มราคา 

เริ่มต้นเพียง 768,000 บาท

  • รุ่น COMFORT: ออกแบบมาเพื่อให้ความสะดวกสบายครบทุกฟังก์ชั่น 

ราคาจำหน่าย 848,000 บาท

  • รุ่น PROACTIVE: ให้การขับขี่ที่มั่นใจด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยสุดล้ำ i-ACTIVSENSE 

ราคาจำหน่าย 948,000 บาท

  • รุ่น STYLE: เหมาะสำหรับไลฟ์ไตล์ที่แตกต่างในความพรีเมียม 

ราคาจำหน่าย 1,048,000 บาท

นอกจากNew Mazda CX-3 ยังมีรถที่นำมาจัดแสดงภายในงานมอเตอร์โชว์ 2020 เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสและเป็นเจ้าของ ประกอบด้วย

All-NEW MAZDA CX-30 “LIFE’S ALWAYS ON ครอสโอเวอร์เอสยูวี เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.0 ลิตร 165 แรงม้า มั่นใจทุกเส้นทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยสะดวกสบายกับห้องโดยสารที่กว้างขวาง เบาะหลังแยกพับ 60:40 อิสระจากกัน ประตูท้ายเปิดปิดด้วยระบบไฟฟ้า แผงหน้าปัดและมาตรวัดดิจิตอล TFT LCD ระบบเครื่องเสียง Bose® รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง 

NEW MAZDA CX-5 “LIVE THE REMARKABLE LIFE ให้ชีวิตทุกบท…น่าจดจำ” ยนตรกรรมอเนกประสงค์เอสยูวีที่มีให้เลือกมากที่สุดถึง 3 เครื่องยนต์ ประกอบด้วย เครื่องยนต์สกายแอคทีฟ 2.5 ลิตร เทอร์โบ 231 แรงม้าแรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร เครื่องยนต์สกายแอคทีฟดีเซล 2.2 ลิตร และเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.0 ลิตร 

ALL-NEW MAZDA CX-8 “THE PRECIOUS MOMENT FOR ALL ทุกช่วงเวลา…มีค่าไม่สิ้นสุด” มีให้เลือกแบบ 7 ที่นั่ง และแบบ 6 ที่นั่ง มีให้เลือกทั้งแบบเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.5 ลิตร 194 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 258 นิวตัน-เมตร พร้อมให้การตอบสนองที่ฉับไว และเครื่องยนต์สกายแอคทีฟดีเซล 2.2 ลิตร 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร พร้อมระบบวาล์วไอเสียแปรผันอัจฉริยะ VVT และระบบเทอร์โบแปรผัน 2 ชั้น 

ALL-NEW MAZDA3 “A NEW ERA BEGINS” ต้นแบบแห่งความสง่างาม การันตีความเป็นที่สุดด้านดีไซน์ ด้วยรางวัล World Car Design of the Year 2020 และ Top 3 World Car of the Year 2020 มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.0 ลิตร ที่ให้การตอบสนองดีเยี่ยม ควบคุมขับขี่ได้อย่างแม่นยำและสมดุล บ่งบอกความเป็นตัวคุณ ทั้งแบบซีดาน 4 ประตู และ ฟาสท์แบ็ค 5 ประตู

NEW MAZDA2 “ไม่หยุดแค่ความธรรมดา” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Less is More” ทุกเส้นสายเรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยความโฉบเฉี่ยว ทรงพลัง โดดเด่นปราดเปรียวในสไตล์สปอร์ตพรีเมียม สัมผัสกับดีไซน์ใหม่ที่ยกระดับความสปอร์ต ทั้งแบบซีดาน 4 ประตู และแฮชแบ็ค 5 ประตู ทั้งเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1.3 ลิตร ประหยัดน้ำมันสูงสุด 23.3 กม./ลิตรและเครื่องยนต์ดีเซล 1.5 ลิตร ประหยัดน้ำมันสูงสุด 23.6 กิโลเมตร 

MAZDA MX-5 สปอร์ตโรดสเตอร์เปิดประทุน แบรนด์ไอคอนเจ้าของตำนานความสนุกสนานเร้าใจในการขับขี่ เปิดประทุนด้วยระบบไฟฟ้าแบบ Retractable Fastback (RF) เพียง 13 วินาที เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.0 ลิตร 184 แรงม้า มีให้เลือกทั้งเกียร์อัตโนมัติและเกียร์ธรรมดา 6 สปีด 

MAZDA BT-50 PRO THUNDER Limited Edition ปิกอัพพรีเมียมสไตล์เก๋ง โดดเด่นด้วยช่วงล่างอัจฉริยะ ซูเปอร์ ดีอี-เอส เทคโนโลยีการจูนช่วงล่างของมาสด้าที่เลื่องชื่อ ให้ขุมพลังเต็มสูบในทุกจังหวะการขับขี่กับเครื่องยนต์ขนาด 2.2 ลิตร ทำงานร่วมกับเทอร์โบแปรผัน และอินเตอร์คูลเลอร์ พร้อมระบบคอมมอนเรลไดเร็กอินเจ็กชั่น มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ให้ความแรงสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,700 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 375 นิวตัน-เมตร 

AW_MotorShow Campaign 2020_Giant Banner 3×5 m_26062020 new

พบกับยนตรกรรมสกายแอคทีฟทุกรุ่นพร้อมรับแคมเปญสุดพิเศษมากมาย อาทิ

  • New Mazda2 รุ่นปี 2019 ดอกเบี้ย 0%1 ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี2
  • All-New Mazda3 ดอกเบี้ย 0%1 ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี2 ขยายการรับประกันคุณภาพเป็น 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร3 ฟรีค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร4
  • Mazda CX-3 รุ่นปี 2018 ส่วนลด 100,000 บาท5 ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี2
  • Mazda CX-3 รุ่นปี 2020 ดอกเบี้ย 0%1 ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี2 ขยายการรับประกันคุณภาพเป็น 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร3 ฟรีค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร4
  • All-New Mazda CX-30 ดอกเบี้ย 1.99%1 ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 2 ปี2 ขยายการรับประกันคุณภาพเป็น 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร3 ฟรีค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร4
  • Mazda CX-5 รุ่นปี 2019 ดอกเบี้ย 0.99%1 ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี2 ขยายการรับประกันคุณภาพเป็น 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร3 ฟรีค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร4
  • All-New Mazda CX-8 ดอกเบี้ย 0%1 ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี2 ขยายการรับประกันคุณภาพเป็น 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร3 ฟรีค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร4
  • Mazda BT-50 PRO และ Mazda BT-50 PRO Thunder ช่วยผ่อนเดือนละ 2,000 บาท เป็นเวลา 24 เดือน รวมมูลค่า 48,000 บาท6 ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี2
  • Mazda MX-5 ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี2 ขยายการรับประกันคุณภาพเป็น 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร3

นอกจากนี้ มาสด้ายังมอบข้อเสนอพิเศษอีก 2 ต่อ สำหรับลูกค้าที่จองรถมาสด้าภายในงานฯ และออกรถภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2563 นี้เท่านั้น 

  • ลูกค้า 1,000 ท่านแรกที่จอง รับฟรีหมอนสไมล์ มูลค่า 390 บาท 
  • ลูกค้า 500 ท่านแรกที่จองมาสด้า CX-3, CX-30, CX-5 และ CX-8 จำนวน 5,000 บาท รับฟรี Mazda Travel Bag สีฟ้า มูลค่า 1,900 บาท และลูกค้า 500 ท่านแรกที่จอง Mazda2, Mazda3, BT-50 PRO และ MX-5 จำนวน 5,000 บาท รับฟรี Mazda Travel Bag สีดำ มูลค่า 1,900 บาท*

*รับของที่ระลึกหลังจากรับรถ 1 เดือน ณ โชว์รูมที่รับรถ

MG

บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์  (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย ตอกย้ำทิศทางและมิติใหม่ของแบรนด์ ที่พร้อมเดินหน้าสร้างสรรค์และพัฒนา อย่างไม่หยุดนิ่ง เพื่อส่งมอบ “สิ่งที่ดียิ่งกว่า” ให้กับลูกค้า ด้วยแนวคิด Passion To Be Better ยกทัพยนตรกรรม “เอ็มจี” ทุกรุ่นร่วมจัดแสดงพร้อมข้อเสนอพิเศษ เอ็มจี ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์รถยนต์ที่ได้รับการยอมรับและมีการเติบโตอย่างเนื่อง 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ หรือ SUV ที่เราสามารถครองแชมป์ในกลุ่มดังกล่าวได้ทั้งหมด กล่าวคือ ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ NEW MG ZS มียอดขายสูงสุดในกลุ่ม B-SUV และ NEW MG HS ในกลุ่มของ C-SUV ในขณะที่ MG ZS EV ก็ยังสามารถครองอันดับหนึ่งในกลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้า

โดยเราให้คำมั่นว่าจะยังคงเดินหน้านำเสนอนวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมทั้งพัฒนาการดำเนินงานของเราให้ดียิ่งขึ้นในทุกมิติ ภายใต้แนวคิด Passion To Be Better เพื่อสร้างและส่งมอบ “สิ่งที่ดียิ่งกว่า” ให้กับลูกค้าชาวไทยอย่างต่อเนื่อง

สำหรับงาน Bangkok International Motor Show ครั้งนี้ เอ็มจีนำเสนอยนตรกรรมที่ครบทุกรุ่น ทั้ง NEW MG ZS  NEW MG ZS EV และ NEW MG HS รถกระบะพันธุ์ยักษ์ NEW MG EXTENDER รถตู้ MG V80 และ รถ Hatchback ยอดนิยมอย่าง MG 3

MINI

MINI เอาใจแฟนๆ ด้วยรถยนต์รุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่น มาพร้อมสีและการตกแต่งสุดพิเศษ กับมินิ Rosewood Edition แฮทช์แบค 3 และ 5 ประตูที่มีจำนวนจำกัดเพียง 30 คัน และมินิ คอนเวิร์ตทิเบิล Sidewalk Edition 

มินิ Rosewood Edition ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเบนซิน 4 สูบ ให้พละกำลังสูงสุด 141 กิโลวัตต์ / 192 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตรที่ 1,350 – 4,600 รอบต่อนาที ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Steptronic คลัทช์คู่ 7 จังหวะ ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 235 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร ต่อชั่วโมงได้ภายในเวลา 6.7 วินาทีสำหรับมินิ Rosewood Edition แฮทช์ 3 ประตู และ 6.8 วินาที

สำหรับมินิ Rosewood Edition แฮทช์ 5 ประตู ส่วนเทคโนโลยีการขับขี่และระบบความปลอดภัยก็มากันครบครัน ไม่ว่าจะเป็นถุงลมนิรภัยด้านหน้าและด้านข้าง ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ ระบบควบคุมการยึดเกาะถนนพร้อมระบบล็อกเฟืองท้ายควบคุมด้วยไฟฟ้า ระบบควบคุมความเร็วคงที่พร้อมฟังก์ชั่นช่วยลดความเร็ว และระบบช่วงล่างแบบ adaptive มอบความสะดวกสบายให้แก่ผู้ขับขี่ในทุกเส้นทาง

มินิ Rosewood Edition (แฮทช์ 3 ประตู)

ราคาจำหน่าย: 2,850,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม โปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard)

มินิ Rosewood Edition (แฮทช์ 5 ประตู)

ราคาจำหน่าย: 2,890,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม โปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard)

มินิ คอนเวิร์ตทิเบิล Sidewalk Edition ผสมผสานเอกลักษณ์อันโดดเด่นและกลิ่นอายแห่งความร่วมสมัยเพื่อรังสรรค์ความแตกต่างแห่งสุนทรียะที่สะกดทุกสายตา สีฟ้าเมทัลลิก Deep Laguna แต่งแต้มตัวถังให้สะดุดตา เสริมบุคลิกให้โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยหลังคาผ้าสี Anthracite การตกแต่งภายนอกมาพร้อมกับลวดลายเรขาคณิตแบบสะท้อนแสงชวนมอง ส่งให้เส้นสายบนฝากระโปรงรถลาย Specific พร้อมเส้น Pin lines และส่วนประกอบอื่น ๆ ให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ทั้งยังเสริมบุคลิกเฉพาะไม่ซ้ำใครด้วยแถบสัญลักษณ์ ‘SIDEWALK’ บริเวณกรอบไฟเลี้ยวด้านข้างและแถบทางเข้าประตูรถ ส่งให้รถยนต์มินิรุ่นพิเศษนี้แตกต่างไม่เหมือนใครขึ้นอีกขั้น 

มินิ คอนเวิร์ตทิเบิล Sidewalk Edition มอบความแรงจากขุมพลังเบนซิน 4 สูบ ที่ให้พละกำลังสูงสุด 141 กิโลวัตต์ / 192 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตรที่ 1,350 – 4,600 รอบต่อนาที ทำงานคู่กับ เกียร์อัตโนมัติ Steptronic คลัทช์คู่ 7 จังหวะ พร้อมทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาเพียง 7.1 วินาที ทั้งยังมาพร้อมหลากหลายเทคโนโลยีการขับขี่และระบบความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นช่วงล่างแบบ Adaptive กล้องแสดงภาพด้านหลัง ไฟท้าย LED ลายธงยูเนียนแจ็ค พร้อมฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกอีกมากมาย รวมถึงระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน Apple CarPlay และแท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย มินิ คอนเวิร์ตทิเบิล Sidewalk Edition ราคาจำหน่าย: 3,060,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม โปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard)

MITSUBISHI

ที่บูทมิตซูบิชิ ในงานมอเตอร์โชว์พบกับ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีลีท เอดิชั่น ใหม่ และ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส ใหม่ พร้อมรถยนต์มิตซูบิชิซึ่งทุกรุ่น โดยแนวคิดการจัดงานมอเตอร์โชว์ในปีนี้คือ ‘แรงบันดาลใจ’ ซึ่งสอดคล้องกับยนตรกรรมมิตซูบิชิทุกรุ่นที่พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ลูกค้า เริ่มจาก มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีลีท เอดิชั่น ใหม่ ภายใต้คอนเซปท์ “The Masterpiece” ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และระบบความปลอดภัย สะท้อนถึงความสำเร็จอีกขั้นของผู้ขับขี่ สำหรับ2ดาวเด่นที่บูทมีรายละเอียดดังนี้

มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีลีท เอดิชั่น ใหม่ ตอบโจทย์ลูกค้าผู้ที่ชื่นชอบรถอเนกประสงค์  มีให้เลือก 2 สีได้แก่ สีดำ JET BLACK MICA ที่หรูหราดุดัน และสีขาว WHITE DIAMOND ตัดกับหลังคาสีดำ ที่สะกดทุกสายตาแบบสปอร์ตพรีเมียมมาพร้อมอุปกรณ์ตกแต่งมาตรฐาน ได้แก่ กระจังหน้ารถสีดำ ตกแต่งด้วยโลโก้ PAJERO SPORT บนฝากระโปรงหน้า และโลโก้ ELITE EDITION ที่ฝาประตูท้าย พร้อมปลายท่อไอเสียสเตนเลส ทั้งนี้ยังติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งสีดำทั้งหมด ได้แก่ ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ชุดตกแต่งใต้กันชนหน้า-หลัง ราวหลังคา สปอยเลอร์หลัง และ เสาอากาศแบบครีบฉลาม

มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส ใหม่ สำหรับลูกค้าผู้ที่ต้องการรถเอสยูวีที่ใช้งานในเมืองและสามารถขับขี่ได้อย่างสะดวกสบาย มีรูปลักษณ์ที่แข็งแกร่งและขับขี่ได้บนทุกเส้นทางด้วยความสูงใต้ท้องรถที่สูงถึง 225 มม. ดีที่สุดในรถเอสยูวีระดับเดียวกัน และเราได้ขยายเวลาให้ผู้ที่ชื่นชอบรถ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส ใหม่ สามารถออกรถในราคาพิเศษช่วงแนะนำ 899,000 บาท เมื่อจองรถภายใน 31 สิงหาคม 2563 และออกรถภายวันที่ 30 กันยายน 2563 นี้

พิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์มิตซูบิชิทุกรุ่นภายในงานมอเตอร์โชว์และที่โชว์รูมมิตซูบิชิทั่วประเทศและรับมอบรถภายในวันที่ 30 กันยายน 2563 รับสิทธิ์ลุ้นเป็นผู้โชคดีจากรายการ “LET’S GOLD ลุ้นทอง ลุ้นล้าน” ลุ้นรับรางวัลสร้อยคอทองคำรวมมูลค่า 1 ล้านบาท พร้อมกันนี้ลูกค้าสามารถเลือกรับข้อเสนอพิเศษ “ขับฟรี 90 วัน” (เมื่อทำสัญญาเช่าซื้อกับสถาบันการเงินที่ร่วมรายการ)พร้อมรับฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งนาน 1 ปี ฟรีรับประกันคุณภาพนาน 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และฟรีค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร

NISSAN

 

นิสสัน ประเทศไทย ใช้เวทีงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ย้ำการเปิดตัว นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ใหม่ และชุดแต่ง พรีเมียร์ อิดิชั่น สำหรับคิกส์ อี-พาวเวอร์ ใหม่ สำหรับรุ่น VL จำนวนจำกัด 500 คันเท่านั้น และยังสามารถพบกับรถยนต์รุ่นล่าสุด และการจัดแสดงเต็มรูปแบบของนิสสัน ภายในงาน

นอกเหนือจาก นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ใหม่ ผู้เข้าชมงานสามารถจองเพื่อทดลองขับ นิสสัน ลีฟ ใหม่ ไอคอนของ นิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี (Nissan Intelligent Mobility) ตอกย้ำความเป็นผู้นำของนิสสัน ในด้านการขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า และ นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ รถซีดานอัจฉริยะสำหรับการใช้งานในเมือง หรือ Intelligent Urban Sedan 

นิสสัน โน๊ต มาพร้อมชุดแต่ง เอ็น-สปอร์ต นิสสัน เทอร์ร่า ชุดแต่ง เอเนอเจติก ชุดแต่ง เอ็น-เทรค วอร์ริเออร์* สำหรับ นิสสัน นาวารา รวมไปถึง นิสสัน จีที-อาร์ ชุดแต่ง พรีเมียม อิดิชั่น และนิสสัน มาร์ช สมาร์ทซิตี้คาร์ จัดแสดงให้ชมอย่างเต็มรูปแบบ มอบทางเลือกที่หลากหลายให้แก่ผู้เข้าชมงาน

PEUGEOT

เบลฟอร์ต ออโตโมบิล (ประเทศไทย) ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ เปอโยต์ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย สร้างกระแสอีกครั้งด้วยการเผยโฉมครั้งแรกในไทย กับคอมแพ็คเอสยูวีสุดจี๊ด ‘2008’ โดยมากับ 2 เอสยูวีรุ่นพี่ 3008 และ 5008 เอสยูวี 7 ที่นั่ง

พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษที่ มอเตอร์โชว์ เปอโยต์ 3008 เอสยูวี ผ่อนเริ่มต้น 15,999 บาท/เดือน และ 5008 เอสยูวี 7 ที่นั่ง ผ่อนเริ่มต้น 17,999 บาท/เดือน พร้อมการรับประกัน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และแพ็คเกจบำรุงรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง นาน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทางและจำนวนครั้ง

นอกจากนั้น เปอโยต์ ก็ยกระดับการบริการลูกค้า กับบริการล่าสุด ‘PEUGEOT CARE’ ครั้งแรกที่อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ด้วยการไปรับรถเพื่อเข้าศูนย์บริการ และนำกลับมาส่งถึงที่บ้าน ผ่านแอพพลิเคชั่น LINE

PORSCHE

บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการ แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ก้าวเข้าสู่ยุคของยานพาหนะพลังงานไฟฟ้าเต็มตัวด้วยการเปิดตัว ปอร์เช่ ไทคานน์ ใหม่ (The new Taycan) ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 41 (The 41st  Bangkok International Motor Show)

รถสปอร์ตคันแรกจากปอร์เช่ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าสมบูรณ์แบบตัวถัง 4 ประตูซีดานที่ยังคงเอกลักษณ์ งานออกแบบของปอร์เช่เอาไว้อย่างครบถ้วนสมรรถนะการขับขี่สุดเร้าใจและเทคโนโลยีระดับศาสตร์แห่งศิลป์ รถไฟฟ้าสายพันธุ์สปอร์ตล่าสุดเปิดตัวด้วยรุ่น ไทคานน์ เทอร์โบ เอส (Taycan Turbo S) ไทคานน์ เทอร์โบ (Taycan Turbo) และ  ไทคานน์ 4 เอส (Taycan 4S)  พร้อมรับคำสั่งซื้อแล้วในประเทศไทย โดยมีราคาจำหน่ายดังนี้

  • ไทคานน์ 4 เอส (Taycan 4S): ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่  7,100,000 บาท
  • ไทคานน์ เทอร์โบ (Taycan Turbo): ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 9,900,000 บาท
  • ไทคานน์ เทอร์โบ เอส (Taycan Turbo S): ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 11,700,000 บาท

พร้อมกันนี้ เอเอเอสฯ ยังขนทัพยนตรกรรมสปอร์ตรุ่นเด่น นำโดย นำโดย 911 คาร์เรร่า (911 Carrera ), 911 คาร์เรร่า เอส (911Carrera S), มาคันน์ (Macan), คาเยนน์ อี ไฮบริด (Cayenne E-Hybrid), 718 บ็อกซเตอร์ (718 Boxster), 718 บ็อกซเตอร์ จีทีเอส (718 Boxster GTS),   และ พานาเมร่า 4 เอส (Panamera 4 S) ร่วมจัดแสดงระหว่างวันจันทร์ที่ 13 ถึง วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม 2563 พร้อมมอบข้อเสนอพิเศษสำหรับผู้จองรถยนต์ปอร์เช่ในงาน อาทิ

  • ผู้สั่งจองรถยนต์ปอร์เช่ทุกรุ่นรับอัตราผ่อนชำระดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% 
  • ผู้สั่งจองรถยนต์ปอร์เช่ มาคันน์ ในสต็อก รับฟรีวารันตีจากโรงงานปอร์เช่ 2 ปี 
  • ผู้สั่งจองรถยนต์ปอร์เช่ คาเยนน์ อี-ไฮบริด ในสต็อก รับสิทธิ์ผ่อนชำระในอัตราดอกเบี้ย 0% นาน 60 เดือน 
  • ผู้สั่งจองรถยนต์ปอร์เช่ 911 ในสต็อก รับฟรีส่วนลดเงินสด และฟิล์มกรองแสง

ROLLS-ROYCE

โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์คาร์ส แบงคอก ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ โรลส์-รอยซ์ อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ภายใต้กลุ่มบริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด หรือ เอ็มจีซี-เอเชีย จัดแสดง โรลส์-รอยซ์ ในงานมอเตอร์โชว์ปีนี้ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่มอัลตร้าลักชัวรี่ โดยจัดแสดงถึง 3 รุ่นด้วยกัน นำโดย ‘แฟนธอม’ พร้อมความพิเศษของ ‘Bespoke’ หรือการเป็นยนตรกรรมที่สามารถกำหนดรายละเอียดของรถคันโปรด ให้สะท้อนตัวตนของผู้ครอบครองได้ดีที่สุด

โรลส์-รอยซ์ แฟนธอม (Phantom) เป็นรถยนต์เพียงรุ่นเดียวที่ได้รับการขนานนามให้เป็น ‘King of cars’ หรือรถยนต์ที่ดีสุดในโลก ได้รับความนิยมอย่างมากในบรรดา ดาราฮอลลีวูด, เซเลบริตี้ระดับ A-LIST รวมถึงนักกีฬาและนักดนตรีระดับแนวหน้า ทะยานอย่างฉับไวแต่เงียบเชียบ ผสานความนุ่มนวลของการขับเคลื่อนแบบพรมวิเศษ (Magic Carpet Ride) ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินทวินเทอร์โบ วี12 สูบ 6.75 ลิตร ตัวถังสีทูโทน ล้อแม็กขอบ 22 นิ้ว ห้องโดยสารแบบ Bespoke interior มาพร้อมกับ Starlight Headliner ที่ช่วยสร้างบรรยากาศท้องฟ้าในยามค่ำคืน และ  The gallery แบบ Rivenslate ลงตัวกับแดชบอร์ดที่ตกแต่งด้วยสีดำ Piano black 

โรลส์-รอยซ์ เรธ (Wraith) รถสปอร์ต 2 ประตู ที่สง่างาม ผนวกกับความล้ำสมัยของเทคโนโลยี ที่ถูกออกเเบบให้สอดคล้องกับการใช้งาน ไฟหน้าแอลอีดีให้แสงสว่างมากขึ้น สะดุดตากับชุดแต่งโครเมียมรมดำ บริเวณ ซี่กระจังหน้า กรอบกระจกด้านข้าง คิ้วไฟท้ายด้านหลัง รวมถึงคิ้วฝากระโปรงท้าย และปลายท่อไอเสีย พร้อมล้อแม็กขอบ 21 นิ้ว ห้องโดยสาร Bespoke interior และประตูเเบบ Coach Door ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ โรลส์-รอยซ์ มากว่า 100 ปี

โรลส์-รอยซ์ คัลลิแนน (Cullinan) โรลส์-รอยซ์ แห่งเอสยูวี มีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ ที่มองหาประสบการณ์เพื่อเติมเต็มชีวิต และแสวงหาอิสระในการผจญภัยไปยังดินแดนที่เข้าถึงได้ยากที่สุด ตั้งชื่อตามเพชรที่มีขนาดใหญ่สุดในโลก ซึ่งปัจจุบันถูกนำไปประดับอยู่บนมงกุฏของพระราชินีแห่งอังกฤษ โครงสร้างตัวถังผลิตจากอะลูมิเนียม ที่เป็นสิทธิบัตรของโรลส์-รอยซ์ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินทวินเทอร์โบ วี12 สูบ 6.75 ลิตร 563 แรงม้า แรงบิด 850 นิวตันเมตร ที่ 1,600 รอบ/นาที ส่งกำลังสู่ล้อทั้ง 4 ผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ห้องโดยสารสามารถขยายพื้นที่เพื่อเพิ่มความจุสัมภาระได้สูงสุดถึง 1,930 ลิตร ขณะที่ช่วงล่างหน้าเป็นแบบดับเบิลวิชโบน และหลังแบบ 5 ลิงก์ ปรับความสมดุล อัตโนมัติ นับเป็นยนตรกรรมอเนกประสงค์สุดหรู รุ่นแรกในประวัติศาสตร์ของ โรลส์-รอยซ์ ที่พร้อมฟันฝ่าอุปสรรคในทุกสภาพเส้นทาง

SUBARU

บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ซูบารุในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ประกาศแคมเปญพิเศษแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน พร้อมนำรถยนต์คุณภาพพรีเมี่ยมที่มุ่งเน้นด้านความปลอดภัยมาจัดแสดงในงาน โดยในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 41

ซูบารุ ได้จัดเซอร์ไพร์ซ สำหรับแฟนๆXV และ Forester กับชุดเครื่องเสียงใหม่ที่รองรับแอพพลิเคชั่น Android Auto และ Apple Car Play ครอบคลุมการเชื่อมต่อแบบไร้ขีดจำกัด และระบบกล้องมองรอบทิศทาง 360° Superview Around Recognition Three-sixty System ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นวิสัยทัศน์อย่างชัดเจนแม้ในมุมอับ ที่มาพร้อมกับ แคมเปญพิเศษสุดเพื่อตอบแทนผู้บริโภคให้ได้เป็นเจ้าของรถยนต์ซูบารุคุณภาพพรีเมี่ยมได้ง่ายขึ้นกับข้อเสนอ ‘ขับฟรีตลอดปี 2020’

  • ซูบารุ เอ็กซ์วี ออกรถวันนี้ ขับฟรีตลอดปี 2020* พร้อมดอกเบี้ย 0% 60 เดือน,ฟรีประกันภัยชั้น 1 และฟรีประกันคุณภาพ 5 ปี
  • ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ ออกรถวันนี้ ขับฟรีตลอดปี 2020* พร้อมดอกเบี้ย 0.99% 48 เดือน,ฟรีประกันภัยชั้น 1 และฟรีประกันคุณภาพ 5 ปี

ชุดแต่ง จีที สำหรับ ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ รุ่นพิเศษนี้ประกอบด้วยอุปกรณ์ 5 ชิ้น คือ สเกิร์ตหน้า สเกิร์ตข้าง สเกิร์ตหลัง สปอยเลอร์หลังคา และปลายท่อไอเสีย อีกทั้งชุดล้ออัลลอยสั่งทำพิเศษขนาด 18 นิ้ว เบาะหนังแบบ two-tone ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากห้องโดยสารของแกรนด์ ทัวร์เรอร์สมรรถนะสูงจากเยอรมนีและอังกฤษ

SUZUKI

ซูซูกินำรถยนต์ทุกรุ่นเข้าร่วมจัดแสดงภายในงานอย่างคับคั่งเช่นเคย โดยเสนอภายใต้แนวคิด Drive Your Limitless การสร้างสรรค์ของยานยนต์ทุกรุ่นจากซูซูกิ ที่ผสานฟีเจอร์และดีไซน์ให้พร้อมตอบสนองไลฟ์สไตล์การใช้งานอันหลากหลายของคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง บนพื้นฐานราคาที่คุ้มค่า เพื่อให้การขับขี่ในชีวิตประจำวันอยู่เหนือขีดจำกัดเดิมๆ ซึ่งนอกจากการนำเสนอยนตรกรรมที่มาพร้อมเทคโนโลยีด้านการขับขี่อันแตกต่างแล้ว ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานพร้อมด้วยการสร้างงานบริการที่เหนือความมุ่งหวังผ่านทางโชว์รูมและศูนย์บริการของผู้จำหน่ายรถยนต์ซูซูกิกว่า 123 แห่งทั่วประเทศ

โดยไฮไลต์สำคัญ คือ ALL NEW SUZUKI XL7, Multi-Dynamic Crossover พร้อมชูแนวคิด THINK XL คิดได้เกินคาด ไปได้เกินใคร ด้วยราคาพิเศษช่วงแนะนำเพียง 779,000 บาท และดอกเบี้ยพิเศษ 1.89% ALL NEW SUZUKI XL7 คือ ยนตรกรรมที่จะมาต่อยอดความสำเร็จในฐานะรถครอสโอเวอร์ที่คำนึงถึงสมรรถนะในการขับขี่และทุกฟังก์ชันการใช้งานอย่างครบครัน มีการออกแบบอย่างประณีตทั้งภายในและภายนอก เพื่อสุนทรียภาพในการขับขี่  พิเศษ ดอกเบี้ย 1.89% หรือเลือก รับข้อเสนอสุดพิเศษ ขับฟรี 90 วัน ส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวม สูงสุด 10,000 บาท

นอกจากนั้น ยังคับคั่งไปด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพรุ่นยอดนิยมจากซูซูกิ

-SUZUKI SWIFT สปอร์ตอีโคคาร์ยอดนิยม สร้างยอดขายเป็นอันดับหนึ่งของซูซูกิมาอย่างต่อเนื่อง เครื่องยนต์รหัส K12M ขนาด 1.2 ลิตร หัวฉีดคู่ DUALJET ช่วยลดมลพิษและประหยัดน้ำมันถึง 23 กิโลเมตรต่อลิตร ในราคาเริ่มต้นเพียง 499,000 บาท พิเศษทุกรุ่นรับข้อเสนอ ขับฟรี 90 วัน ส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 30,000 บาท หรือเลือก ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 3,222 บาท หรือเลือก ดอกเบี้ย 1.09% 

-SUZUKI CIAZ พรีเมียมอีโคคาร์ซีดานที่ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ชูความสปอร์ตเร้าใจและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในที่เหนือระดับมากยิ่งขึ้น วางราคาจำหน่ายเริ่มต้นเพียง 523,000 บาท พิเศษ รับข้อเสนอสุดพิเศษ ขับฟรี 90 วัน พร้อมส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 40,000 บาท ฟรีบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 10,000 บาท หรือเลือก ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 3,777 บาท 

-SUZUKI CELERIO รถยนต์นั่งขนาดคอมแพ็คคุณภาพเกินตัว รถยนต์รุ่นนี้สามารถทำยอดขายได้ดีเกินคาด  ส่วนหนึ่งมาจาก สมรรถนะการขับที่ดี ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงกว่า 20 กิโลเมตรต่อลิตร เป็นเจ้าของได้ง่าย ด้วยราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 318,000 บาท พิเศษ รับข้อเสนอสุดพิเศษ ขับฟรี 90 วัน พร้อมส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 20,000 บาท หรือเลือก ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 1,999 บาท

-SUZUKI ERTIGA ยนตรกรรมอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง หนึ่งในรถอเนกประสงค์ขนาดเล็ก (MPV) รูปทรง ให้ความรู้สึกโฉบเฉี่ยวเร้าใจ ด้วยกระจังหน้าโครเมี่ยม ไฟหน้าโปรเจ็คเตอร์ เสริมด้วยไฟตัดหมอกทรงกลม ไฟท้าย LED และล้ออลูมิเนียมอัลลอยขนาด 15 นิ้ว ราคาจำหน่ายเริ่มต้น  659,000 บาท  พิเศษ ข้อเสนอสุดพิเศษ ขับฟรี 90 วัน พร้อมส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 10,000 บาท ฟรีบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 10,000 บาท หรือเลือก ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 4,444 บาท 

-SUZUKI CARRY รถกระบะบรรทุกอเนกประสงค์ มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่  มิติตัวรถขนาดความยาว 4,195 มม. ความกว้าง 1,765 มม. และความสูง 1,910 มม. กระบะบรรทุกแบบเรียบ ผลิตจากแผ่นเหล็กเสริมกัลวาไนซ์มีคุณสมบัติป้องกันสนิมและการสึกกร่อน เพิ่มความกว้างและความยาวของพื้นที่บรรทุกอยู่ที่ 1,670 มม. และ 2,450 มม. สามารถเปิดได้ทั้ง 3 ด้าน ขนถ่ายสัมภาระได้สะดวกยิ่งขึ้น พิเศษ ข้อเสนอสุดพิเศษ ขับฟรี 90 วัน พร้อมส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 10,000 บาท 

TOYOTA

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เข้าร่วมจัดแสดงยนตรกรรมหลากหลายรุ่น ภายใต้แนวคิด “องค์กรแห่งการขับเคลื่อนที่จะอยู่เคียงข้างคุณ” (Mobility Company that always stay with you) พร้อม เผยโฉม Toyota Corolla Cross อย่างเป็นทางการ รถอเนกประสงค์ใหม่ล่าสุดใช้แพลตฟอร์มเดียวกันกับ Toyota Corolla Altis

และ CHR ด้วยมิติตัวรถที่มีขนาดใหญ่พร้อมด้วยเทคโนโลยี TNGA ที่ชูจุดเด่นในด้านความแข็งแกร่ง ทนทาน Toyota Corolla Cross มีให้เลือก 2 ขุมพลัง ทั้งขนาด 1.8 ลิตร 140 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติซีวีที และขุมพลังรูปแบบไฮบริดเจนเนอเรชั่นที่ 4 ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า พร้อมเกียร์อัตโนมัติ E-CVTพร้อมแคมเปญโปรโมชั่นสำหรับรถยนต์โตโยต้าทุกรุ่น ในงานนี้มีทั้งดาวน์ 0% ดอกเบี้ยต่ำ ฟรีประกันภัยชั้น 1 ทั้งยังมีโปรแกรมขับฟรี 90 วัน และส่วนลดเงินสดอีกมากมาย

VOLVO

วอลโว่ นำทัพขบวนรถยนต์วอลโว่ทุกรุ่นที่ได้รับความสนใจสูงสุด ได้แก่ รถยนต์วอลโว่ ตระกูล XC รถ SUV สมรรถนะดีเยี่ยม (XC40, XC60, และ XC90) รถยนต์ Sedan สุดหรู (S60 และ S90) รถยนต์เอนกประสงค์  Estate Hatchback The New V60 รวมถึง ยนตรกรรมรถ SUV สุดล้ำ The New XC60 T8 AWD Polestar Engineered ขึ้นแสดงบน บูธวอลโว่ (A18) ต้อนรับงานมหกรรมยานยนต์ยิ่งใหญ่แห่งปี บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 41 (41st  Bangkok International Motor Show 2020)

จัดโปรโมชั่นแพ็คเกจบำรุงรักษารถยนต์ระดับพรีเมียม “Volvo Premium Service Program” ในราคาเพียง 50% สำหรับ ลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ Volvo XC40, XC60, XC90, Volvo S60 และ Volvo V60 รับสิทธิ์ ฟรีอัพเกรด Volvo Maintenance Service (บริการบำรุงรักษารถยนต์) เป็น 10 ปี หรือ 100,000 กม. (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)* พร้อมรับ Wall Box (เครื่องชาร์ทไฟรถยนต์ Plug-in Hybrid) ฟรี!  เมื่อซื้อรถยนต์วอลโว่ ประเภทเครื่องยนต์ Plug-in Hybrid ทุกรุ่น (มูลค่า 59,000 บาท)* ตลอดเดือนกรกฏาคม 2563 นี้

Volvo Premium Service Program ถือเป็นบริการดูแลรักษารถมาตรฐานขั้นสูงอันเป็นซิกเนเจอร์เฉพาะของทางแบรนด์รถยนต์วอลโว่ ที่มอบความอุ่นใจและความสะดวกสบายที่เหนือกว่าให้แก่ลูกค้าด้วยบริการและสิทธิประโยชน์มากมาย ดังนี้

  • บริการบำรุงรักษา 10 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)
  • บริการประกันคุณภาพ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)
  • บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 5 ปี 

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด

โปรโมชั่นพิเศษนี้สำหรับลูกค้าที่สนใจในซีรี่ส์ Volvo XC, Volvo Sedan และ Volvo Estate Hatchback ทั้งที่ซื้อในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 41 และ ที่โชว์รูมรถยนต์วอลโว่ทุกสาขาตั้งแต่วันที่ 1-31 กรกฏาคม 2563 และ กำหนดส่งมอบรถยนต์ภายในเดือนกรกฏาคม โดยเฉพาะรุ่น XC40 จากราคาแพ็คเกจปกติ 130,000 บาท จ่ายเพียง 65,000 บาท ส่วนรุ่นอื่นๆ จากราคาแพ็คเกจปกติ 150,000 บาท จ่ายเพียง 75,000 บาท