ข่าวรถยนต์
ทีมข่าว. incarsmagazine
บุรีรัมย์ 19 มกราคม 2564
บริษัท ไทยบริดจสโตน จำกัด ร่วมกับเทศบาลเมืองบุรีรัมย์, ค็อกพิทบุรีรัมย์เสรี,คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยมหิดล และสมาชิกทีมแอโรบิคจังหวัดบุรีรัมย์ จัดการแข่งขันเต้นแอโรบิคปีที่ 2 ภายใต้ชื่อโครงการคือ “B-Active เต้นให้สุด เพื่อหยุดโรค” รอบชิงชนะเลิศ เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ณ ลานบริดจสโตน (ลานละลม 6) หน้าวัดอิสาณ จังหวัดบุรีรัมย์
เพื่อยกระดับสุขภาพที่ดีของคนทุกเพศทุกวัยให้แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจสนุกกับการออกกำลังกายมากขึ้นสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีพร้อมสู้โควิด-19 และส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็ง ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมของบริดจสโตน ที่ได้ดำเนินการภายใต้เจตนารมณ์ความรับผิดชอบต่อสังคม“Our Way To Serve” มาอย่างต่อเนื่อง
บรรยากาศการแข่งขันเต้นแอโรบิคปีที่ 2 “B-Active เต้นให้สุด เพื่อหยุดโรค” รอบชิงชนะเลิศ
ไทยบริดจสโตนสานต่อความสำเร็จของโครงการ B-Active ที่เข้าสู่ปีที่ 2 ด้วยผลตอบรับที่ดีจากชาวบุรีรัมย์ เรามุ่งหวังส่งมอบความปลอดภัยในการออกกำลังกายให้ผู้คนทุกเพศทุกวัย เพราะ B-Active ถือเป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญของบริดจสโตน
ในการส่งเสริมและสนับสนุนให้คนทุกเพศทุกวัยมีสุขภาพดี มุ่งสร้างสรรค์ชุมชนให้เป็นสังคมแห่งสุขภาพและการแบ่งปันความสุขผ่านการออกกำลังกาย เพื่อเป็นอีกพลังที่สามารถต่อยอดให้เกิดความเข้มแข็งขึ้นให้กับสังคม และนี่คืออีกหนึ่งความห่วงใยที่ บริดจสโตนพร้อมส่งมอบให้กับสังคมไทย
มร. ฟูมิทากะ ทาคาโอกะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยบริดจสโตน จำกัด(ขวา) และนายยุทธชัย พงศ์พณิช รองนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ (ซ้าย)
ในนามของบริดจสโตน ผมรู้สึกดีใจมากที่โครงการ B-Active ได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากชาวบุรีรัมย์ ทำให้เราได้กลับมาพบกันอีกครั้งในปีนี้ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า “B-Active เต้นให้สุดเพื่อหยุดโรค” จะมอบความสุข ความสนุกสนาน เสริมสร้างความเป็นอยู่ที่ดีในทุกช่วงวัย เพื่อชีวิตและชุมชนที่มีสุขภาพดีขึ้นของชาวบุรีรัมย์”
นายยุทธชัย พงศ์พณิช รองนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ กล่าวว่า “ขอบคุณบริดจสโตนที่ได้จัดโครงการ B-Active เป็นปีที่ 2 ให้กับชาวบุรีรัมย์ โดยบริดจสโตนได้ส่งผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์การกีฬามาเป็นวิทยากรฝึกอบรมให้ผู้นำชมรมแอโรบิคเพื่อส่งเสริมความรู้ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาอย่างปลอดภัยและโภชนาการที่ดีเพื่อแบ่งปันให้กับสมาชิกท่านอื่นๆ ในชุมชน นับเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์กลุ่มคนทุกเพศทุกวัยได้ดีในช่วงเวลานี้และยังส่งเสริมให้เกิดพลังที่แข็งแกร่งขึ้นในชุมชนครับ”