เอ็มจี เปิดราคา สเตชันวากอนไฟฟ้า NEW MG ES 959,000 บาท

เอ็มจี เปิดราคา สเตชันวากอนไฟฟ้า NEW MG ES 959,000 บาท

ข่าวรถยนต์

ทีมข่าว incarsmagazine

กรุงเทพฯ 20 มีนาคม 2566

บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย เปิดตัว NEW MG ES สเตชันวากอนไฟฟ้า 100% รุ่นใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “COMFORTABLE เป็นทุกอย่างเพื่อทุกโมเมนต์” สานต่อความมุ่งมั่นในการนำเสนอยนตรกรรมคุณภาพที่ผสมผสานดีไซน์อันเรียบหรูดูล้ำสมัยในแบบฉบับ New Era Design พื้นที่ใช้สอยกว้างขวางพร้อมฟังก์ชันสุดครบครัน ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าเจเนอเรชั่นใหม่ และความปลอดภัยเหนือชั้น เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เน้นไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ชูจุดขายในเรื่องดีไซน์ที่เรียบหรูทันสมัยพร้อมความสะดวกสบายและความอเนกประสงค์ที่มากยิ่งขึ้น   

ราคาจำหน่าย NEW MG ES 959,000 บาท* 

*ราคานี้เป็นราคาหลังจากได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ

*สำหรับลูกค้าที่รับรถยนต์หลังมีการประกาศราชกิจจานุเบกษา

ข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองและรับรถยนต์ NEW MG ES

– รับดอกเบี้ยพิเศษ 1.79% นาน 48 เดือน

– ฟรี! MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด พร้อมฟรีค่าติดตั้ง

– ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี

– ฟรี! สาย V2L จำนวน 1 ชุด

– รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

เอ็มจีย้ำภาพความเป็นผู้นำอีวีในไทย แนะนำรถไฟฟ้ารุ่นใหม่เสริมพอร์ตให้แข็งแกร่งและหลากหลายมากยิ่งขึ้นกับ NEW MG ES รถสเตชันวากอนไฟฟ้า 100% ที่โดดเด่นด้วยพื้นที่กว้างขวางและฟังก์ชันที่เน้นความสะดวกสบาย กับประสบการณ์ใหม่ของการใช้รถไฟฟ้า ที่ตอบสนองมากกว่าแค่การใช้งานทั่วไปแต่สามารถเติมเต็มทุกโจทย์ความต้องการในทุกไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างได้อย่างลงตัว 

NEW ERA DESIGN เรียบหรูดูล้ำสมัย แฝงไปด้วยฟังก์ชันที่พร้อมตอบโจทย์ทุกการใช้งาน 

ชุดกันชนหน้าไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Light Curtain Design ยกระดับความโฉบเฉี่ยวมากขึ้น เสริมการใช้งานมากขึ้นด้วยชุดราวหลังคา (Roof Rail) ที่รองรับน้ำหนักได้ถึง 75 กิโลกรัม และด้วยรูปโฉมสไตล์สเตชันวากอน จึงมาพร้อมกับห้องโดยสารที่กว้างขวางนั่งสบาย ทั้งยังสามารถบรรจุสัมภาระสูงสุดถึง 1,367 ลิตร ตกแต่งภายในด้วยเส้นสายโทนสีฟ้า ENERGETIC BLUE STRIP ให้ภายในหรูหรายิ่งขึ้นพร้อมเบาะนั่งวัสดุหุ้มหนังสังเคราะห์ DENIM TEXTURE DESIGN ให้ผิวสัมผัสคล้ายยีนส์ ปรับลุคให้ดูมีความทันสมัยและดูแลรักษาง่าย ชุดเบาะนั่งดีไซน์ใหม่ ยกขอบปีกข้าง พร้อมเทคโนโลยี Zero-G Seats กระจายน้ำหนักและรองรับสรีระของผู้นั่งให้ดียิ่งขึ้น เดินทางระยะไกลได้สบายE- PERFORMANCE: สเตชันวากอนอีวีแนวใหม่กับประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายและเหนือระดับ

เต็มที่ในทุกการเดินทางด้วยนวัตกรรมรถไฟฟ้าใหม่ NEW MG ES มาพร้อมแพลตฟอร์มระบบส่งกำลัง ใหม่ล่าสุด ที่มีขนาดและน้ำหนักลดลง แต่ประสิทธิภาพสูงขึ้นถึง 53% ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าเจเนอเรชั่นใหม่แบบ 8-LAYER HAIR PIN PERMANENT MAGNETIC SYNCHRONOUS MOTOR (PMSM)ให้พละกำลังสูงสุดที่ 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร ซึ่งมอเตอร์แบบใหม่นี้ให้การตอบสนองที่ดีขึ้น โดยสามารถปรับเร่งรอบได้สูงถึง 15,000 รอบ/นาที ทำให้ NEW MG ES สามารถทำความเร็วสูงสุดได้มากถึง 185 กิโลเมตร/ชั่วโมง เสริมสร้างประสบการณ์การขับขี่ไปอีกระดับด้วยระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) ถึง 3 ระดับ ได้แก่ มาก ปานกลาง และน้อย เข้าโค้งได้อย่างมีประสิทธิภาพกับรัศมีวงเลี้ยวเพียง 5.95 เมตร 

NEW MG ES มาพร้อมกับแบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอรอนฟอสเฟต (LFP) ความจุ 51 kWh มีการปรับปรุงให้มีน้ำหนักเบาลงถึง 22% และระบบ Liquid Cooling System ช่วยระบายความร้อนให้ทั้งมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ให้สมรรถนะในการขับเคลื่อนได้ไกลถึง 412 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC (NEW EUROPEAN DRIVING CYCLE) รองรับการชาร์จทั้งแบบ Quick Charge จาก 0% – 80% ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ที่ความเร็วสูงสุด 87 kW และ Normal Charge รองรับการชาร์จสูงสุดที่ 11 kW ใช้เวลาการชาร์จจาก 0% – 100% 7 ชั่วโมง 15 นาที ผ่าน MG HOME CHARGER ที่ 6.6 kW อีกทั้งยังรองรับระบบ V2L (Vehicle to Load) เปลี่ยนรถไฟฟ้าให้เป็นแหล่งจ่ายไฟไปยังอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ด้วยกำลังไฟสูงสุด 2,200 วัตต์ 

SAFETY: ปลอดภัยและอุ่นใจ…สบายใจทุกการเดินทาง

มั่นใจทุกการขับขี่ด้วยระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame) ที่มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM และระบบ ADVANCED DRIVER ASSISTANCE SYSTEM (ADAS) รวม 20 ระบบ อาทิ ระบบควบคุมเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control) ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning) และ ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนและช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping Assist) ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System) เป็นต้น นอกจากนี้ NEW MG ES ยังมาพร้อมกับระบบสั่งการอัจฉริยะ i-SMART ในรูปแบบ Lite version ที่เปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมและรับการแจ้งเตือนสำคัญของรถเอ็มจีของตัวเองได้เพียงปลายนิ้วสัมผัสไม่ว่าจะเป็น ระบบตรวจสอบสถานะรถยนต์ ระบบเตือนความผิดปกติของรถยนต์ ระบบสั่งการกุญแจดิจิตอล ระบบโทรออก – รับสายกรณีฉุกเฉิน Emergency Call หรือ ระบบสั่งการชาร์จ สถานี MG SUPER CHARGE เป็นต้น 

NEW MG ES มาพร้อมกับสีตัวถังให้เลือกถึง 5 สี ได้แก่ สีขาว (Arctic White) สีดำ (Black Knight) สีเทา (Andes Gray) สีแดง (Scarlet Red) และ สีเงิน (Champagne Silver) และตกแต่งภายในสไตล์ทูโทนพร้อมหุ้มด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์ DENIM TEXTURE DESIGN NEW MG ES ในฐานะ “รถรุ่นใหม่” ของครอบครัวด้วยจุดเด่นมากมายและการผสานการใช้เทคโนโลยีความปลอดภัยในการขับขี่ เข้ามาเติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้กับรถเพื่อให้ผู้บริโภคสามารถใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการได้อย่างสะดวกสบายและง่ายดายมากยิ่งขึ้น โดย NEW MG ES มาพร้อมแนวคิด “COMFORTABLE” คือ สเตชันวากอนอีวี  แนวใหม่กับประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายและเหนือระดับ มาพร้อมกับสไตล์การออกแบบที่เรียบหรู แต่ดูล้ำสมัยเหมาะกับการใช้งานทุกรูปแบบ ถือเป็นนิยามใหม่ของความพรีเมียมที่มาพร้อมกับความคุ้มค่า 

สำหรับกลุ่มเป้าหมายของรถรุ่นนี้ เน้นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่มี Modern Lifestyle ที่ไม่ได้จำกัดแค่เพียงความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลในบ้านเดียวกันเท่านั้น ยังรวมไปถึงความสัมพันธ์ของกลุ่มเพื่อนและคนสนิทที่เน้นการมีไลฟ์สไตล์ในรูปแบบที่หลากหลายร่วมกัน โดย NEW MG ES ถือเป็นส่วนหนึ่งในทุกๆ โมเม้นต์สำคัญของการใช้ชีวิตของกลุ่มคนเหล่านี้