เอ็มจี ฉลองยอดผลิตในไทย ครบ 100,000 คัน

เอ็มจี ฉลองยอดผลิตในไทย ครบ 100,000 คัน

ข่าวรถยนต์

ทีมข่าว. incarsmagazine

กรุงเทพฯ 21 ตุลาคม 2563

-เอ็มจี ฉลองยอดการผลิตรถยนต์ในประเทศไทย ครบ 100,000 คัน ตอกย้ำภาพโรงงานศูนย์กลางการผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวาของอาเซียน

บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย ฉลองยอดการผลิตรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย ครบ 100,000 คัน ด้วย NEW MG HS PHEV รถยนต์ SUV ปลั๊กอินไฮบริดที่เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการสู่สาธารณชนในประเทศไทยในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ พร้อมตอกย้ำภาพการเป็นโรงงานผลิตรถยนต์ที่เป็นศูนย์กลางการผลิตสำหรับรถยนต์พวงมาลัยขวาของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีมาตรฐานการผลิตระดับโลก 

เมื่อเร็วๆ นี้ โรงงานผลิตรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทยได้มียอดการผลิตสะสมครบ 100,000 คัน นับตั้งแต่การผลิตรถยนต์เอ็มจีรุ่นแรกในปี พ.ศ. 2557 โดยได้ผลิตรถยนต์เอ็มจีรุ่นต่างๆ ไปแล้ว 8 รุ่น ครอบคลุมทั้งรถยนต์นั่ง

ได้แก่ MG6,  MG 5,  MG GS,  MG 3, MG ZS,  MG HS และรถกระบะ MG EXTENDER ซึ่งล่าสุดได้เริ่มผลิตรถยนต์ NEW MG HS PHEV รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นแรกของเอ็มจี ซึ่งเตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย และจัดแสดงต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก ที่งาน Fast Auto Show Thailand 2020 ในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ 

พงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด

ตัวเลขยอดการผลิตสะสมครบ100,000 คันนี้ สะท้อนให้เห็นถึงการยอมรับในแบรนด์รถยนต์เอ็มจีจากลูกค้าคนไทยได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้เอ็มจีจะเดินหน้าแนะนำผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และมอบบริการหลังการขายที่สร้างความสะดวกสบายและความพึงพอใจสูงสุดให้ลูกค้า รวมทั้งยกระดับภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยและส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าและคนไทยที่ไว้วางใจในแบรนด์รถยนต์เอ็มจีของเรา”

สำหรับโรงงานผลิตรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการผลิตรถยนต์เอ็มจีพวงมาลัยขวาเพื่อการจำหน่ายในประเทศและส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน โดยตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์น ซีบอร์ด แห่งที่ 2 ในจังหวัดชลบุรี

บนเนื้อที่กว่า 473.5 ไร่ ที่ใช้งบประมาณในการลงทุนกว่า10,000ล้านบาท โดยมีการติดตั้งเทคโนโลยีและนวัตกรรมการผลิตและประกอบรถยนต์ที่ล้ำสมัย ทั้งการใช้ระบบอัตโนมัติ (Automations) และหุ่นยนต์อัจฉริยะ (Intelligent Robotics) ที่เป็นเทคโนโลยีการผลิตระดับสูง รวมทั้งระบบ การตรวจสอบคุณภาพที่สามารถควบคุมกระบวนการการผลิตให้ได้มาตรฐานและมีความปลอดภัยตามมาตรฐานระดับโลก