บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แถลงผลงานปี 63 พร้อมเปิดรถใหม่ 6 รุ่น
ข่าวรถยนต์
ทีมข่าว. incarsmagazine
กรุงเทพฯ 17 กุมภาพันธ์ 2564
- เผยโฉมยนตรกรรมใหม่สุดหรู บีเอ็มดับเบิลยู X7 xDrive30d M Sport รุ่นประกอบ
ในประเทศ พร้อมเปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยูซีรีส์ 3 Gran Sedan รุ่นฐานล้อยาวเป็นครั้งแรก
ในประเทศไทย ด้วยบีเอ็มดับเบิลยู 330Li M Sport - สร้างนิยามใหม่ในเซกเมนต์พรีเมียมคอมแพ็คกับมินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน เอนทรี ใหม่ และมินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน ไฮทริม ใหม่ พร้อมส่งมินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ GP Inspired Edition ใหม่ เสริมความสปอร์ตเร้าใจเทียบชั้นรถแข่ง
- บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู R 18 Classic First Edition รุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูลทัวริ่งครูสเซอร์ สานต่อตำนานสุดคลาสสิกสำหรับไบค์เกอร์ตัวจริง
- บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย สร้างสถิติใหม่ด้วยยอดการส่งออกสูงที่สุดสำหรับทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู รวม 23,143 คัน เพิ่มขึ้นถึง 24% จากปีก่อนหน้า
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ต่อยอดความสำเร็จหลังคว้าตำแหน่งผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดยานยนต์พรีเมียมในปี 2563 เปิดตัวทัพยนตรกรรมใหม่ครบทั้งสามแบรนด์ ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู X7 xDrive30d M Sport ใหม่, บีเอ็มดับเบิลยู 330Li M Sport ใหม่, มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน, มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ GP Inspired Edition, และบีเอ็มดับเบิลยู R 18 Classic First Edition ณ งานแถลงข่าวประจำปี 2564 ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
ในภาพ จากซ้าย คุณปรีชา นินาทเกียรติกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย, มร. กัลดริค ดอนเนอซาน ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย, มร. บียอร์น แอนทอนส์สัน ประธานกรรมการบริหาร บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย, มร.อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย, มร. มิเกล ญาเบรส-โปห์ล ผู้อำนวยการ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และผู้นำเข้าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก, คุณประภัสรา อร่ามวงศ์สมุทร ผู้อำนวยการ มินิ ประเทศไทย และ คุณกฤษฎา อุตตโมทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารกิจการองค์กร บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
ทัพยนตรกรรมใหม่ในปีนี้ นำโดยบีเอ็มดับเบิลยู X7 xDrive30d M Sport ใหม่ ที่สุดแห่งยนตรกรรมหรูในตระกูล SAV ที่นำเข้ามาประกอบในประเทศไทยเป็นครั้งแรก และบีเอ็มดับเบิลยู 330Li M Sport ซึ่งเป็นครั้งแรกที่บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 Gran Sedan จะนำความสะดวกสบายในห้องโดยสารที่เหนือกว่ามามอบให้กับลูกค้าในไทย
ส่วนมินิพร้อมเติมสีสันให้กับตลาดรถยนต์พรีเมียมคอมแพกต์อีกครั้ง กับ มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน ที่มาในโฉมใหม่ทั้งในรุ่นเอนทรี และไฮทริม
พร้อมด้วยความโฉบเฉี่ยวขั้นสุดกับ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ GP Inspired Edition ที่นำสมรรถนะจากสนามแข่งของรุ่น จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ เดิม มาเติมเต็มให้แรง ท้าทายทุกสายตาด้วยโฉมใหม่ที่ส่งตรงมาจากรุ่นพิเศษอย่าง มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ GP
สำหรับคนรักมอเตอร์ไซค์ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดพร้อมต่อยอดความสำเร็จของมอเตอร์ไซค์ครูสเซอร์รุ่นแรกเมื่อปีที่ผ่านมา ด้วยการเปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู R 18 Classic First Edition รถทัวริ่งครูสเซอร์ที่เปี่ยมด้วยจิตวิญญาณแห่งอิสรภาพบนทุกเส้นทางยาวไกล แต่ยังคงความคลาสสิกของ R 18 รุ่นเดิมไว้ทุกอณู
มร.อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้ดำเนินธุรกิจด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งสู่อนาคตมาโดยตลอดในทุกระดับ และสำหรับปี 2563 ที่ผ่านมา วิสัยทัศน์นี้ก็ได้นำพาเราให้ฟันฝ่าเหตุการณ์ไม่คาดฝันมากมายมาได้ ไม่ว่าจะด้วยการมอบประสบการณ์ดิจิทัลที่ครบครันมากขึ้น หรือความมุ่งมั่นที่จะเติมเต็มทุกความต้องการในโลกยานยนต์สำหรับทั้งปัจจุบันและอนาคต ด้วยทางเลือกที่หลากหลายจากแนวคิด Power of Choice”
“แน่นอนว่าสำหรับปี 2564 นี้ เรายังคงรุดหน้าอย่างต่อเนื่องเพื่อต่อยอดความสำเร็จในฐานะผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์พรีเมียม ด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่เร้าใจและสะดุดตายิ่งกว่าเดิม ทั้งยังเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าอย่างทั่วถึงทุกความต้องการ นับตั้งแต่ที่สุดของความหรูหราและความสง่างามในสไตล์สปอร์ต ไปจนถึงความตื่นตาตื่นใจจากสนามแข่งและความเพลิดเพลินจากการดื่มด่ำบรรยากาศของทุกการเดินทาง นอกจากนี้ เรายังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับลูกค้าต่อไป เพื่อสานต่อนวัตกรรมมากมายที่เกิดขึ้นจากการปรับตัวรับมือกับสถานการณ์ในปัจจุบันนี้ ให้ครอบคลุมหลากหลายความสนใจของกลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้น โดยเริ่มต้นจากโครงการ BMW Motorrad Tour Experience เพื่อนำเหล่าไบค์เกอร์ออกสัมผัสความสวยงามจากเหนือจรดใต้ของประเทศไทยในมุมมองใหม่ ๆ ตลอดทั้งปีนี้”
ในปีที่ผ่านมา บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย สามารถขยายส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มรถยนต์พรีเมียมขึ้นมาที่ 51.2% ด้วยยอดการส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิรวมถึง 12,426 คัน ทำให้บริษัทก้าวขึ้นสู่อันดับหนึ่งในเซกเมนต์ดังกล่าวได้สำเร็จ นอกจากนี้ ส่วนแบ่งตลาดพรีเมียมที่เติบโตขึ้นถึง 7.3% ยังนับเป็นสถิติอัตราการเติบโตสูงสุดในเครือข่ายของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ทั่วโลกอีกด้วย ทั้งนี้ ยอดการส่งมอบรถยนต์ของทั้งสองแบรนด์นับว่าเป็นผลงานที่แข็งแกร่งกว่าภาพรวมของตลาดรถยนต์นั่ง ซึ่งมียอดขายลดลงถึง 31% ส่วนทางบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ยังคงรักษาระดับยอดการส่งมอบไว้ได้ที่ 1,224 คัน ท่ามกลางความท้าทายครั้งประวัติศาสตร์นี้
“สถานะผู้นำในเซกเมนต์พรีเมียมของเรา ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงความรวดเร็วของเราในการปรับตัวรับมือเหตุการณ์ที่เหนือความคาดหมาย และความมุ่งมั่นทุ่มเทของเหล่าพันธมิตรในเครือข่ายผู้จำหน่ายของเรา เพื่อตอบสนองต่อทั้งความต้องการของลูกค้าและปัจจัยความเปลี่ยนแปลงจากภายนอก” มร. บารากา เสริม “เมื่อชีวิตประจำวันในหลายด้านต้องหยุดชะงักลงชั่วขณะ เราจึงขยายการทำตลาดผ่านช่องทางดิจิทัลให้กว้างขวางขึ้นจากปีก่อน ๆ โดยรวมไปถึงการสร้างประสบการณ์ดิจิทัลในสองงานใหญ่ประจำปี ทั้งบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2020 และมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 37 ควบคู่ไปกับการจัดแสดงรถยนต์หน้างานจริงและข้อเสนอที่น่าตื่นตาตื่นใจมากมายเช่นเคย ส่วนงาน BMW Xpo ของเราก็ได้ปรับรูปแบบให้ใกล้ชิดกับลูกค้ามากขึ้นด้วยการจัดงานในหลายสถานที่ทั่วกรุงเทพฯ”
การขับเคลื่อนนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ทั่วโลก ยังคงเดินหน้าต่อไป เช่นเดียวกับในประเทศไทยด้วยการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบอย่าง มินิ คูเปอร์ เอสอี ในปีที่ผ่านมา พร้อมด้วยรถยนต์ PHEV อีกสี่รุ่นในตระกูลซีรีส์ 3 ซีรีส์ 7 X3 และ X5 ขณะที่เครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้าสาธารณะ ChargeNow ก็มีจำนวนหัวจ่ายเพิ่มขึ้นเป็น 111 หัวจ่ายใน 67 จุดบริการทั่วประเทศ
ในด้านการผลิต บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย สามารถต้านทานแรงกดดันจากสภาพตลาดรถยนต์โดยรวม รวมถึงสถานการณ์ที่พลิกผันในห่วงโซ่อุปทานของชิ้นส่วนต่าง ๆ ด้วยยอดการประกอบรถยนต์และมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยูรวมกว่า 32,052 คัน เพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยแบ่งเป็นยอดการประกอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู 23,177 คัน ลดลง 10% และยอดประกอบมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดที่ 8,875 คัน เพิ่มขึ้น 43% ในปี 2563 ที่ผ่านมา ในด้านการส่งออกนั้น มีการส่งออกรถยนต์และมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู รวม 23,143 คัน เพิ่มขึ้นถึง 24% โดยแบ่งเป็นรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูกว่า 15,079 คัน เพิ่มขึ้น 3% และมีการส่งออกมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด กว่า 8,064 คัน เพิ่มขึ้นถึง 97% นับเป็นสถิติการส่งออกที่สูงที่สุดสำหรับทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยูในปีที่ผ่านมา และในปีนี้ การเปิดตัว บีเอ็มดับเบิลยู X7 xDrive30d M Sport ใหม่ รุ่นประกอบในประเทศ ก็ทำให้โรงงานประกอบยานยนต์ของบีเอ็มดับเบิลยู ณ จังหวัดระยอง สามารถประกอบรถยนต์และมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยูในประเทศได้ถึง 17 รุ่น โดยรวมถึงรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด 5 รุ่น และมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด อีก 9 รุ่น
ทางด้าน บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งด้วยสถิติใหม่ในหลายด้านตลอดปีที่ผ่านมา ก่อนที่จะฉลองครบรอบ 20 ปีของบริษัทในปี 2564 นี้ โดยยอดสินเชื่อใหม่กว่า 16,770 ล้านบาทในปี 2563 นับเป็นสถิติสูงสุดของบริษัท แม้จะต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนจากโควิด-19 ด้วยเหตุนี้ ยอดสินเชื่อรวมในพอร์ตของบริษัทจึงทะยานสู่หลัก 50,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นสถิติใหม่อีกเช่นกัน ส่วนโปรแกรมทางการเงินอย่าง Freedom Choice ที่มอบทางเลือกและอิสรภาพสูงสุดให้กับลูกค้า มีจำนวนสัญญาเช่าซื้อเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าตัวเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่ประสบการณ์และข้อเสนอในช่องทางดิจิทัลของ บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย ได้ขยายตัวและเพิ่มความหลากหลายขึ้นอย่างชัดเจน ทั้งในรูปแบบของบริการค้นหารถยนต์ที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ที่สุด (Preference Finder) การสัมผัสรถบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 2 และ ซีรีส์ 3 แบบเสมือนจริงผ่านระบบ Augmented Reality และการร่วมนำเสนอบริการผ่านช่องทางออนไลน์ในงานมอเตอร์โชว์และมอเตอร์ เอ็กซ์โป กับบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย