บรัสเซลส์ 18 พฤศจิกายน 2564
-บริดจสโตน EMIA ผนึกกำลังกับ EVBox Group ขยายสถานีและเครือข่ายให้บริการชาร์จรถพลังงานไฟฟ้าในยุโรป
- ด้วยความร่วมมือกับ EVBox Group, TSG และบริดจสโตน EMIA (บริดจสโตน) จะทำการติดตั้งสถานีชาร์จรถพลังงานไฟฟ้าจำนวนกว่า 3,500 สถานี ในร้านค้าปลีกและเครือข่ายการให้บริการของบริดจสโตนทั่วทั้งยุโรป ภายในระยะเวลา 5 ปี
- ผู้ขับขี่รถยนต์และรถขนส่งพลังงานไฟฟ้าในยุโรปจะสามารถเข้าถึงสถานีชาร์จไฟฟ้าที่ติดตั้งใหม่และเครือข่ายชาร์จรถพลังงานไฟฟ้าสาธารณะของบริดจสโตนซึ่งมีมากกว่า 130,000 สถานี โดยผ่านโซลูชั่นการให้บริการที่ครบในหนึ่งเดียว
- บริดจสโตนสนับสนุนการใช้รถพลังงานไฟฟ้าแบบบูรณาการครบวงจร รวมถึงคุณภาพระดับพรีเมียมของยางรถยนต์และเทคโนโลยียางสำหรับรถพลังงานไฟฟ้า โซลูชั่นสำหรับการขนส่งและการเดินทาง ร้านค้าปลีกและเครือข่ายการให้บริการแบบพร้อมสรรพสำหรับรถพลังงานไฟฟ้า
บริดจสโตน ผู้นำระดับโลกด้านการนำเสนอโซลูชั่นสำหรับยางรถยนต์และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับยางเพื่อการเดินทางที่ปลอดภัยและยั่งยืน และ EVBox ผู้ให้บริการชั้นนำด้านโซลูชั่นการชาร์จรถพลังงานไฟฟ้า ประกาศเป็นพันธมิตรใหม่ร่วมกันในระยะยาว เพื่อขยายสถานีสำหรับการชาร์จรถพลังงานไฟฟ้าในยุโรป โดยจะติดตั้งสถานีชาร์จรถพลังงานไฟฟ้าจำนวนถึง 3,500 สถานี ในร้านค้าปลีกและเครือข่ายการให้บริการของบริดจสโตนทั่วทั้งยุโรป ซึ่งรวมถึงแบรนด์ชั้นนำอย่างแบรนด์ Speedy และ First Stop โดยโครงการในระยะเวลา 5 ปีนี้ เป็นโครงการล่าสุดที่ บริดจสโตนสนับสนุนการใช้รถพลังงานไฟฟ้าซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเจตนารมณ์ที่จะช่วยสร้างอนาคตแห่งการเดินทางที่ยั่งยืนโดยจะเริ่มต้นในประเทศฝรั่งเศสและอิตาลี และจะขยายไปยังสหราชอาณาจักร เยอรมนี โปแลนด์ สเปน และประเทศอื่นๆ ในยุโรป
เครือข่ายการให้บริการชาร์จรถพลังงานไฟฟ้าแห่งใหม่ของบริดจสโตน จะประกอบไปด้วยสถานีชาร์จแบบธรรมดาและแบบรวดเร็ว โดยจะตั้งอยู่ในจุดต่างๆ ที่เป็นทำเลยุทธศาสตร์และสามารถเข้าถึงได้สำหรับผู้ขับรถพลังงานไฟฟ้าทุกคนทั้งรถยนต์ส่วนบุคคลและรถขนส่ง สำหรับสถานีชาร์จแบบรวดเร็วจะติดตั้งตามเส้นทางที่มีการสัญจรหนาแน่นเพื่อให้ผู้ที่สัญจรไปมาสามารถชาร์จไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็ว การอำนวยความสะดวกต่างๆ จะดำเนินการโดยพันธมิตรของ EVBox คือ บริษัท TSG ซึ่งเป็นผู้นำของยุโรปในด้านการให้บริการทางเทคนิคสำหรับโซลูชั่นการเดินทาง โดยจะมีบทบาทหลักในด้านการออกแบบ ติดตั้ง และบำรุงรักษาสถานีการชาร์จรถพลังงานไฟฟ้าในร้านค้าปลีกและเครือข่ายการให้บริการของ บริดจสโตนทั่วทั้งยุโรปด้วยการเป็นพันธมิตรร่วมกันระหว่างบริดจสโตนและ EVBox จะทำให้ผู้ขับรถยนต์และรถขนส่งพลังงานไฟฟ้าสามารถใช้บริการจากหนึ่งในเครือข่ายชาร์จรถพลังงานไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ซึ่งประกอบด้วยเครือข่ายชาร์จรถพลังงานไฟฟ้าแบบสาธารณะมากกว่า 130,000 สถานี และสถานีชาร์จรถพลังงานไฟฟ้าแห่งใหม่ 3,500 สถานี โดยผ่านโซลูชั่นการให้บริการที่ครบในหนึ่งเดียว ด้วยการใช้การ์ดที่ออกแบบมาโดยเฉพาะหรือแอปพลิเคชันบนมือถือซึ่งควบคุมโดยซอฟต์แวร์บริหารจัดการชาร์จรถพลังงานไฟฟ้าของ EVBox จากการที่สามารถเข้าถึงสถานีและเครือข่ายชาร์จรถพลังงานไฟฟ้าได้ทั่วทั้งยุโรป แอปพลิเคชัน (หรือการ์ด) นี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับความสะดวกและยังเกิดประสิทธิภาพในการใช้งานเป็นอย่างมาก โดยผ่านแพลตฟอร์มกลางสำหรับการชำระเงินและออกใบเสร็จในที่เดียว โดยสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมในการชาร์จรถพลังงานไฟฟ้า และยังช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเดินทางจากมาดริดไปยังเฮลซิงกิโดยใช้โซลูชั่นเดียวกันนี้ได้จากการเป็นพันธมิตรร่วมกับ EVBox เครือข่ายร้านค้าปลีกของบริดจสโตนยังเปิดโอกาสให้กับผู้ขับขี่รถพลังงานไฟฟ้าได้ซื้อและติดตั้งสถานีชาร์จรถพลังงานไฟฟ้าไว้ที่บ้านได้ ซึ่งเป็นการตอกย้ำความแข็งแกร่งของเจตนารมณ์บริษัทในการส่งเสริมให้สามารถเข้าถึงรถพลังงานไฟฟ้าเพื่อเป็นทางเลือกสำหรับการเดินทางที่มีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
การลงทุนเพื่อสนับสนุนการใช้รถพลังงานไฟฟ้าในยุโรป
บริดจสโตนเล็งเห็นว่ารถพลังงานไฟฟ้าเป็นโอกาสที่สำคัญครั้งใหญ่ในการช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และช่วยให้การเดินทางเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคาดว่ายอดขายรถใหม่ในยุโรปในปี 2568 จะมีสัดส่วนของรถพลังงานไฟฟ้าถึง 20%1 แม้ว่าจะมีอุปสรรคอีกมากที่จะต้องก้าวข้ามก่อนที่รถพลังงานไฟฟ้าจะได้รับการยอมรับเป็นจริงได้ในอนาคต งานวิจัยประจำปีของบริดจสโตนเกี่ยวกับรถพลังงานไฟฟ้าซึ่งดำเนินการวิจัยทั่วทั้งยุโรป พบว่า สำหรับผู้ตอบแบบสำรวจที่ไม่คิดจะซื้อรถพลังงานไฟฟ้านั้น ราว 50% ให้เหตุผลว่ามีสถานีสำหรับชาร์จรถพลังงานไฟฟ้าไม่เพียงพอ2 ซึ่งความท้าทายดังกล่าวถูกระบุไว้ในชุดนโยบาย ‘Fit for 55’ ของสหภาพยุโรป ซึ่งกำหนดให้ประเทศสมาชิก ขยายสถานีชาร์จรถพลังงานไฟฟ้าให้สอดคล้องกับยอดขายรถที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ และให้ติดตั้งสถานีชาร์จรถพลังงานไฟฟ้าและจุดเติมเชื้อเพลิงตามระยะทางที่กำหนดบนถนนสายสำคัญๆ 3ส่วนหนึ่งของเจตนารมณ์ของบริดจสโตน คือ การช่วยสร้างอนาคตแห่งการเดินทางที่ยั่งยืน จึงได้มีการปรับเปลี่ยนธุรกิจเพื่อรองรับการใช้รถพลังงานไฟฟ้า โดยบูรณาการแบบครบวงจร ตั้งแต่การลงทุนเพื่อพัฒนาคุณภาพระดับพรีเมียมของยางรถยนต์และเทคโนโลยียางสำหรับรถพลังงานไฟฟ้า รวมถึงการออกแบบโซลูชั่นสำหรับการขนส่งและการเดินทาง นอกจากนี้ บริดจสโตนยังร่วมมือกับผู้ผลิตรถพลังงานไฟฟ้าชั้นนำและพัฒนาร้านค้าปลีกและเครือข่ายการให้บริการสำหรับรถพลังงานไฟฟ้าแบบพร้อมสรรพ ได้แก่ บริการซ่อมบำรุงรถพลังงานไฟฟ้าและให้บริการเกี่ยวกับยาง บริการชาร์จรถพลังงานไฟฟ้า และบริการแบบเคลื่อนที่ครบจบในที่เดียว การขยายสถานีและเครือข่ายให้บริการชาร์จรถพลังงานไฟฟ้าในยุโรปโดยความร่วมมือกับ EVBox และ TSG ครั้งนี้ จึงนับเป็นก้าวสำคัญของบริดจสโตน
‘การพัฒนาและเติบโตควบคู่ไปกับการเดินทางด้วยระบบพลังงานไฟฟ้าและตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าว’Christophe de Valroger รองประธานฝ่ายปฏิบัติการร้านค้าปลีกของบริดจสโตน EMIA ให้ความเห็นต่อการประกาศเป็นพันธมิตรระหว่างบริดจสโตนและ EVBox ว่า “บริดจสโตนมีความมุ่งมั่นที่จะช่วยขับเคลื่อนอนาคตแห่งยานยนต์พลังงานไฟฟ้าให้เป็นจริง โดยร่วมมือกับผู้ผลิตรถพลังงานไฟฟ้าชั้นนำเพื่อพัฒนายางระดับคุณภาพพรีเมียมและเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืนซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดของรถพลังงานไฟฟ้า นอกจากนี้ กุญแจสำคัญของความมุ่งมั่นดังกล่าว คือ การสร้างร้านค้าปลีกและเครือข่ายการให้บริการแบบพร้อมสรรพสำหรับรถพลังงานไฟฟ้าให้เกิดขึ้นจริง ความร่วมมือในครั้งนี้ จะทำให้เราสามารถสนับสนุนการขยายสถานีและเครือข่ายให้บริการชาร์จรถพลังงานไฟฟ้าในยุโรปซึ่งมีความต้องการเพิ่มขึ้นได้ และยังสามารถอำนวยความสะดวกและให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพแก่ผู้ขับขี่รถพลังงานไฟฟ้าและผู้ให้บริการด้านขนส่ง บริษัท EVBox เป็นผู้นำในการสร้างสรรค์ของอุตสาหกรรมการชาร์จรถพลังงานไฟฟ้าตั้งแต่ปี 2553 จึงนับว่าเป็นพันธมิตรที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับเรา”
“บริดจสโตนเป็นธุรกิจที่ตระหนักในการสร้างอนาคตแห่งการเดินทางอย่างยั่งยืน เราได้เห็นสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจริงจากประกาศและการเป็นพันธมิตรระหว่างบริษัทต่างๆ เมื่อเร็วๆ นี้ และเรามีความภูมิใจที่ได้ทำงานร่วมกับบริษัทที่มีความมุ่งมั่นในแนวทางเดียวกัน” Bram Poeth ประธานฝ่ายการสื่อสารของ EVBox Group กล่าว “ความร่วมมือดังกล่าวเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นพันธมิตรใหม่ร่วมกันในระยะยาวระหว่างผู้นำของอุตสาหกรรม ซึ่งจะพัฒนาและเติบโตควบคู่ไปกับการเดินทางด้วยระบบพลังงานไฟฟ้าและตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าวได้”
*1 ที่มา: การประเมินจากบริดจสโตน โดยอ้างอิงจากฐานข้อมูล Frost & Sullivan, BCG, ACEA, LMC, การขนส่งและสิ่งแวดล้อม และ IHS ปี 2563
*2 การวิจัยโดยบริดจสโตน ซึ่งดำเนินการในปี 2564 สอบถามผู้บริโภคชาวยุโรปมากกว่า 3,000 คน ในประเทศฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี โปแลนด์ สเปน และสหราชอาณาจักร
*3 ทุก ๆ 60 กิโลเมตร สำหรับสถานีชาร์จรถพลังงานไฟฟ้า และทุก ๆ 150 กิโลเมตร สำหรับไฮโดรเจน
