รีวิวรถยนต์ใหม่
โดย.เตมีย์ ลิ้มตระกูล
กรุงเทพฯ 5 กุมภาพันธ์ 2563
เมื่อ 10 ปี แล้วตลาดรถยนต์ B-Secment รถยนต์นั่งขนาดกำลัง มี 3 เจ้าตลาดเรียงตามลำดับไหล่ไปคือ Toyota Vios , Honda City , Mazda2 ช่วงเวลานั้นรถยนต์กลุ่มนี้เน้นความคุ้มค่าคุ้มราคาจากขนาดตัวถังกำลังดีมีปริมาณอรรถประโยชน์เยอะออฟชั่นแยะเครื่องยนต์สมส่วน 1500ซี.ซี. แยกแบ่งตลาดกันชัดเจนกับอีโคคาร์ครั้งยังเป็นเฟส1 เมื่อปี2009 ( ตอนนั้นเข้าใจกันว่าอีโคคาร์คือกลุ่มรถยนต์ราคาประหยัด) รวมถึงความที่ยังเป็นรถแรงวิ่งแข่งกันได้ในสนามในเกมส์อีเว้นท์มาร์เก็ตติ้ง
แต่กับช่วงเวลานี้นับตั้งแต่ปลายปี2019 ที่ผ่านมามีหลายสิ่งเปลี่ยนไปเปิดกว้างให้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาในประเทศให้ลูกค้าชาวไทยได้จับต้อง ค่ายรถยนต์เริ่มใช้เทคโนโลยีของตนเปิดมุมมองช่องทางทางตลาดใหม่ใช้การควบรวมตลาดรถยนต์อีโคคาร์ (เฟส 2) กับตลาดรถยนต์ บี-เซ็กเม้นท์มาสร้างฐานลูกค้าใหม่ให้กับโปรดักส์ จะเรียกว่าบี-เซ็กเม้นท์ลงไปควบรวมกับอีโคคาร์ หรือ จะเรียกว่าอีโคคาร์ พัฒนาไปหาบี-เซ็กเม้นท์ ก็แล้วแต่ถนัด!!!
ก่อนจะเข้าเรื่อง รีวิวทดลองขับทดสอบสมรรถนะ ออลนิว นิสสัน อัลเมร่า 1.0 เทอร์โบ ขอพาย้อนไปดูไทม์ไลน์ความความสำเร็จของนิสสันในการทำตลาดอีโคคาร์ในประเทศไทยเริ่มตั้งแต่เปิดโครงการอีโคคาร์ตั้งแต่ปี 2009 รถยนต์อีโคคาร์คันแรกของประเทศไทยคือ นิสสัน มาร์ชและอีกหลายรุ่นหลายี่ห้อจะทยอยเปิดตัวตามกันมาส่วน นิสสัน อัลเมร่า จะเปิดตัวตามมาในปีถัดไป
นิสสัน มาร์ช เปิดตัว 12 มีนาคม 2010 ราคา 388,000-558,000
ฮอนด้า บริโอ้ เปิดตัว 17 มีนาคม 2011 ราคา 436,500-533,500
นิสสัน อัลเมร่า เปิดตัว 7 ตุลาคม 2011 ราคา 433,000-625,000
มิตซูบิชิ มิราจ เปิดตัว 20 มีนาคม 2012 ราคา 383,000-552,000
ซูซูกิ สวิฟ เปิดตัว 21 มีนาคม 2012 ราคา 442,000-599,000
ฮอนด้า บริโอ้ อเมช เปิดตัว 23 พฤศจิกายน 2012 ราคา 454,000-521,000
มิตซูบิชิ แอททราจ เปิดตัว 4 กรกฎาคม 2013 ราคา 449,000-589,000
โตโยต้า ยาริส เปิดตัว 22 ตุลาคม 2013 ราคา 469,000-629,000
ซูซูกิ เซเลริโอ เปิดตัว 29 พฤภาคม 2014 ราคา 359,000-488,000
ซูซูกิ เซียส เปิดตัว 8 กรกฎาคม 2015 ราคา 484,000-625,000
นิสสัน มาร์ช เปิดตัวมาด้วยคอนเซปต์ “ให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นอีก” ขณะที่ นิสสัน อัลเมรา รถยนต์ อีโค คาร์ แบบซีดาน คันแรกของประเทศไทย เปิดตัวครั้งแรกในปี 2011 ด้วยคอนเซปต์ “ความสุขที่ มากกว่า” เด่นด้วยพื้นที่ห้องโดยสารภายในที่กว้าง ให้ความสะดวกสบาย ปัจจัยที่ทำให้ทั้งสองรุ่น ได้รับความนิยมคือความคุ้มค่ามาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยตอบโจทย์ทั้งด้าน สิ่งแวดล้อม ประหยัดน้ำมัน แถมยังตอบสนองการขับขี่ รองรับการเดินทางไกลได้ ภายในห้องโดยสาร ที่ให้ความสะดวกสบายไม่น้อยหน้าบี-เซ็กเม้นท์ รุ่นพี่กี่มากน้อย ส่งผลให้ทั้งสองรุ่นก็ได้รับการตอบรับอย่างดี ทั้งจากตลาดภายในประเทศและต่างประเทศมีการส่งออกไป 13 ประเทศ รวมถึงประเทศญี่ปุ่น มียอดการผลิตสะสมทั้งสองรุ่นจากฐานการผลิตในประเทศไทยกว่า 500,000 คัน โดยประมาณ 65% เป็นนิสสันมาร์ช สำหรับตลาดในประเทศไทย นิสสัน อีโค คาร์ ทั้งสองรุ่น ยังได้รับความนิยม และครองความเป็นผู้นำด้วยยอดจำหน่ายสะสมสูงสุดกว่า 250,000 คัน โดยเฉพาะ อัลเมรา ถือเป็นรุ่นที่ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามด้วยยอดจำหน่ายเฉลี่ยเดือนละ 1,000 คัน (เมื่อปี 2016)
ก่อนที่อีโคคาร์ทั้งสองรุ่นจะปรับโฉมในปี 2016 เพิ่มความตื่นเต้นเร้าใจ เพิ่มความสดใหม่ และให้ความคุ้มค่าอย่างต่อเนื่อง โดยนิสสันมาร์ช เพิ่มสีพิเศษ นิสสันอัลเมรา เพิ่มรุ่น สปอร์ตเทค ก่อนจะขยับไปเป็น อัลเมรา นิสโม เพอร์ฟอร์แมนซ์ แพ็คเกจ รถยนต์นิสโมรุ่นแรกในประเทศไทย และฉลองยอดการ ผลิตนิสสันอีโค คาร์ 500,000 คัน นิสสัน ได้แนะนำรุ่นลิมิเต็ด อิดิชัน สำหรับทั้ง มาร์ช และอัลเมรา โดยเพิ่มอุปกรณ์ตกแต่ง พวกไฟเลี้ยวกระจกมองข้าง, ชุดคิ้วกันสาดประตู, ชุดคิ้วบันไดสแตนเลสเรืองแสง, และปลายท่อไอเสียดีไซน์พิเศษ โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 485,000 บาท พร้อมสื่อสารการตลาดภายใต้แนวคิด ‘500,000 รอยยิ้มและความสุข กับครอบครัวนิสสันอีโค คาร์’
ทั้งมาร์ช และอัลเมรา ใช้เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.2 ลิตร มีตัวเลขอัตราประหยัดเชื้อเพลิง 20 กิโลเมตร/ลิตร ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ XTRONIC-CVT เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการใช้ เทคโนโลยี นิสสัน เพียว ไดร์ฟ (PURE DRIVE) ที่ให้รถมีค่าการปล่อยมลพิษต่ำ โดยปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ไม่เกิน 120 กรัม/กิโลเมตร เทียบเท่าระดับมาตรฐาน EURO 4
เปลี่ยนทุกสิ่งที่เคยเชื่อเพื่อเธอคนเดียว
นิสสัน อัลเมร่า คันนี้เปิดตัวพร้อมจำหน่ายในบ้านเราไปตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา และเมื่อทุกอย่างเข้าที่ นิสสัน ประเทศไทย จัดกิจกรรมทดลองขับ นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ หัวใจเทอร์โบ กันที่จังหวัดภูเก็ต ระยะทางรวมประมาณ 250 กิโลเมตร ไม่ใกล้ไม่ไกลสำหรับสื่อมวนชน 2 คนต่อหนึ่งคันหารกันขับไป-กลับคนละ 100 กว่ากิโลเมตร ระยะทางกำลังดีที่จะใช้สัมผัสจับอาการว่านอกจากสิ่งอำนวยความสะดวกจำพวกอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยในชื่อนิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี (Nissan Intelligent Mobility) สัญญาณเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์ด้านหน้าขณะขับขี่ (Intelligent Forward Collision Warning – IFCW)
ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน (Intelligent Emergency Braking – IEB) เตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning – BSW) ตรวจจับวัตถุด้านหลังรถขณะถอย (Rear Cross Traffic Alert – RCTA) กล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor – IAVM) และตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุและบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน (Moving Object Detection – MOD) ด้วยกล้องสี่ตัวที่ด้านหน้า ด้านหลังและด้านข้าง รอบคัน เหล่านี้แล้ว ภายในห้องโดยสารนิสสัน อัลเมร่า ที่ถือว่าเป็น อีโคคาร์ ซีดานที่มีพื้นที่ใช้สอยภายในห้องโดยสารกว้างที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพื้นที่นั่งผู้โดยสารตอนหลัง
เครื่องยนต์จุดขายหลักแต่ไม่ใช่ประเด็นเด่น
ในตอนแรกที่มีข่าว นิสสัน อัลเมร่า จะเปิดตัวด้วยเครื่องยนต์ใหม่ดาว์นไซซิ่ง 1.0 เทอร์โบ เล่นเอาคีดเวิร์ด 1.0 เทอร์โบ พุ่งอันดับหนึ่งกูเกิ้ลไทยอยู่หลายวัน จากนั้นหลังเปิดตัวก็เป็นทอร์คออฟเดอะทาว์น กล่าวขวัญกันถึงความแรงจากเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตรใหม่ รหัส HRA0 3 สูบ แถวเรียงแบบ DOHC (Double Overhead Camshaft) ขนาดปริมาตรความจุ 999 ซีซี กำลังสูงสุด 100 พีเอส (Ps) มีแรงบิดถึง 152 นิวตันเมตร (Nm) ตั้งแต่รอบเครื่องที่ 2,400 ถึง 4,000 รอบต่อนาที ลูกสูบแบบ Delta Cylinder Head, หัวฉีดแบบ Central Injector และ Turbocharger
ควบคุมไอเสียด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์รวมถึงเทคโนโลยีเคลือบบนกระบอกสูบแบบ Mirror Bore Coating แบบเดียวกับที่ใช้ใน Nissan GT-R เพื่อเพิ่มความทนทาน ลดการสึกหรอ และน้ำหนักของกระบอกสูบ พร้อมติดตั้งระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติ เมื่อรถหยุดนิ่ง (Idling Stop) ช่วยให้ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น (เคลมไว้ที่ 23.3 กม. ต่อลิตร) สามารถเปิด – ปิด ระบบการทำงานได้ (เป็นอุปกรณ์บังคับของอีโคคาร์เฟส2) ส่งพลังผสานเกียร์ XTRONIC CVT พร้อม D-Step Logic ระบบ ช่วงล่าง ด้านหน้า เป็นแบบ อิสระ แม็คเฟอร์สัน สตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลัง เป็นแบบ ทอร์ชัน บีม พร้อมเหล็กกันโคลง
คุ้มกว่านี้มีอีกไหม?
นอกจาก นิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี ยังมีอุปกรณ์มาตรฐานในด้านความปลอดภัยทั้งในเชิงการป้องกันActive Safety) และ ปกป้อง(Passive Safety) ไม่ว่าจะเป็น
-โครงสร้างตัวถังเป็นแบบ Zone Body Concept เพิ่มความแข็งแรง ความยืดหยุ่น และกระจายแรงกระแทก เพื่อปกป้องห้องโดยสารและผู้โดยสารกรณีเกิดอุบัติเหตุ
-ถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า เป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่ติดตั้งอยู่ในนิสสัน อัลเมร่า ใหม่ ทุกรุ่น ขณะที่ด้านข้าง (side airbags) และม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง (curtain airbags) เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรุ่น VL
-เข็มขัดนิรภัยคู่หน้า ปรับสูง-ต่ำได้ เพื่อความเหมาะสมกับสรีระของผู้ขับขี่และผู้โดยสารแต่ละคน โดยเข็มขัดนิรภัยด้านหน้าเป็นแบบ ELR 3 จุด แบบดึงกลับอัตโนมัติ และผ่อนแรงอัตโนมัติ ด้านหลังเป็นแบบ ELR 3 จุด ครบทั้ง 3 ตำแหน่ง นอกจากนี้ยังเพิ่มความปลอดภัยสำหรับผู้โดยสารที่เป็นเด็กด้วยจุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX และระบบป้องกันเด็กเปิดประตูจากภายในรถ
-ระบบเบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) และระบบเสริมแรงเบรก (BA) และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ แอลอีดี เห็นได้ชัดเจน โดยระบบเบรกหน้าเป็นแบบ ดิสค์เบรก พร้อมช่องระบายความร้อน ขณะที่ด้านหลังเป็นแบบดรัมเบรก
อินโฟเทนเมนท์จัดใหญ่ให้เยอะ
ความเพลิดเพลินจากอุปกรณ์สนองความบันเทิงยุคใหม่เป็นสิ่งจำเป็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสภาพการจราจรที่ติดขัด ความบันเทิงจะช่วยเยียวยาให้หลายสิ่งดีขึ้น
-ระบบข้อมูลและความบันเทิง NissanConnect หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว พร้อมช่องเชื่อมต่อ Bluetooth, USB และ AUX IN สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง ลำโพง 6 จุด เชื่อมต่อโทรศัพท์สมาร์ทโฟน ผ่าน Apple CarPlay (ในรุ่น V และ VL)
-ถ้าเป็นรุ่น E และ EL ไม่มีจอมาให้แต่ติดตั้งระบบเครื่องเสียง วิทยุ AM/FM สามารถระบบเชื่อมต่อ Bluetooth, USB และ AUX-IN ลำโพง 4 ตำแหน่ง
-สะดวกสบายง่ายดายด้วยสวิตช์ควบคุมระบบเครื่องเสียงและระบบโทรศัพท์บนพวงมาลัย(รุ่น EL, V และ VL) พร้อมระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์ไร้สายแบบ Bluetooth (ยกเว้นในรุ่น S)
-ด้วยมาตรวัดแบบเรืองแสง Fine Vision Meter แบบ Digital ผ่านหน้าจอ TFT หน้าจอสีขนาด 7 นิ้ว / แสดงผลข้อมูลการขับขี่ / แสดงมาตรวัดอุณหภูมิภายนอก (รุ่น V และ VL)
ภายในไม่ถึงกับหรู แต่ดูดี มีครบ
ภายในห้องโดยสาร นิสสัน อัลเมร่า ดูจะเจตนาให้พื้นที่กับผู้โดยสารตอนหลังมากเป็นพิเศษโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพื้นที่วางขาของผู้โดยสารตอนหลัง ข้ามมาฝั่งของคนขับปรับรับสรีระชอบใจกับพวงมาลัยทรงใหม่ D-Shape ฝังชุดควบคุมมัลติฟังก์ชันสั่งงานเครื่องเสียงและระบบเชื่อมต่ออื่นๆ (ยกเว้นรุ่น S ) เฉดสีภายในคุมด้วยโทนสีดำเสริมด้วยวัสดุสีเงินบริเวณช่องแอร์ด้านข้างและคอนโซลกลางวัสดุตกแต่งคอนโซลกลางสีเปียโน แบล็ค (เฉพาะรุ่น EL, V และ VL) นอกจากข้อดีเหล่านี้ยังมีอุปกรณ์ มาตฐานตามข้อตกลงที่อีโคคาร์ต้องมีคือปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ (Push Start Button) รีโมทอัจฉริยะ (Intelligent Key – I-Key) (สำหรับรุ่น EL, V และ VL) และระบบกุญแจ Immobilizer
รวมถึงระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ (สำหรับรุ่น V และ VL) กระจกไฟฟ้ารอบคัน พร้อมระบบป้องกันการหนีบ (Anti-jam Protection) ด้านคนขับ ที่วางแก้วน้ำตอนหน้า 2 ตำแหน่ง ช่องวางขวดน้ำที่แผงประตู 4 ตำแหน่ง ช่องวางของเอนกประสงค์ตอนกลาง กล่องเก็บของด้านหน้าไฟอ่านแผนที่ด้านหน้า ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร และไฟห้องสัมภาระท้าย ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบตั้งเวลาหน่วง และระบบไล่ฝ้ากระจกหลังแบบตั้งเวลา
มี 5 รุ่นย่อยให้เลือก
-1.0L TURBO S CVT ราคา 499,000 บาท
(มีเฉพาะสีดำ แบล็ค สตาร์,สีเงิน บริลเลียนท์ ซิลเวอร์)
-1.0L TURBO E CVT ราคา 509,000 บาท
(มีเฉพาะสีดำ แบล็ค สตาร์,สีเงิน บริลเลียนท์ ซิลเวอร์,สีขาว สตอร์ม ไวท์)
-1.0L TURBO EL CVT ราคา 559,000 บาท
-1.0L TURBO V CVT ราคา 599,000 บาท
-1.0L TURBO VL CVT ราคา 639,000 บาท
6 สีตัวถังให้เลือก
สีแดง เรเดียนท์ เรด
สีส้ม โมนาร์ช
สีขาว สตอร์ม ไวท์
สีดำ แบล็ค สตาร์
สีเทา กัน เมทาลิค
สีเงิน บริลเลียนท์ ซิลเวอร์
ข้อเสนอพิเศษ
จอง นิสสัน อัลเมร่าตั้งแต่ 1 – 29 กุมภาพันธ์ 2563 ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี* อัตราดอกเบี้ย 1.79%* (เงินดาวน์ 25%, ระยะเวลาผ่อนชำระนาน 48 เดือน) ฟรี โปรแกรมบำรุงรักษา (SAVE SAFE) 3ปี/42,000 กม.*
* ข้อเสนอนี้สำหรับลูกค้าที่เช่าซื้อกับบริษัท นิสสัน ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด และ สำหรับรุ่น V และ VL เท่านั้น บริษัทประกันภัยที่ร่วมแคมเปญ ได้แก่ บริษัท นวกิจประกันภัย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ซมโปะประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
ลองแล้วมาเล่า
นิสสัน อัลเมร่า เทอร์โบ ในความรู้สึกตั้งแต่แรกเจอเมื่อครั้งเปิดตัว บอกเลยว่าแอบหลงรักกระจังหน้า วี-โมชั่น ที่ถูกถ่ายทอดไปในทิศทางเดียวกันกับรถยนต์นิสสันรุ่นใหม่ทั่วโลกขนาบข้างด้วยไฟหน้า แอลอีดีทรงบูมเมอแรง เช่นเดียวกับไฟท้ายเส้นสายลายบูมเมอแรงคล้ายกัน
จากกระจังหน้าไปฝา กระโปรงลาดต่ำก่อนจะไล่ทำองศายกขึ้นไปตั้งแต่เสาหลังคา (kick-up C-pillars) ไปจนถึงด้านบนทรงหลังคาแบบลอยตัว (floating roof) ดีไซน์เหล่านี้คือ ดีเอ็นเอ ของรถยนต์นิสสันรุ่นใหม่ ตกลงว่าเรื่องของรูปทรงการออกแบบทั้งภายในภายนอกบอกเลยว่า…..ชอบและถูกใจมากว่าฮอนด้า ซิตี้ เทอร์โบ
ในตำแหน่งผู้ขับ ท่านั่งสบายๆสำหรับมาตรฐานชายไทย และหญิงไทย (ความสูงไม่เกิน 180 เซนติเมตร) คุณภาพวัสดุบุหุ้มรวมถึงการตัดเย็บอยู่ในระดับที่ไม่น่าจะติติงอะไรออกไปในทางสายกลางด้วยเพราะราคาค่าตัวเลยต้องใช้คำว่าสมราคา ที่เป็นเช่นนี้เพราะ นิสสัน อัลเมร่า เรียกตัวเองว่า อีโคคาร์ และวางเป้าหมายเจาะกลุ่มลูกค้าคนละกลุ่มกับคู่แข่งฮอนด้า ซิตี้ ที่ยังคงความเป็น บีเซกเมนท์ ทุกกระเบียดนิ้ว แน่นอนว่าวัสดุอุปกรณ์บุหุ้มรวมถึงการตัดเย็บจะดูเนียบเนียนกว่า (แน่นอนว่าราคาสูงกว่า)
โดยเมื่อจับเทียบกันด้วยราคาฮอนด้าซิตี้ รุ่นเริ่มต้น (579,500 บาท) จะมีราคาถูกกว่านิสสัน อัลเมร่า รุ่นรองท๊อปอยู่ 1.5 หมื่น ในขณะที่รุ่นท๊อปของนิสสัน อัลเมร่า มีราคาถูกกว่าฮอนด้า ซิตี้ ตัวท๊อป 1 แสนบาท…OMG!!! เมื่อเทียบราคาเทียบรุ่นกันด้วยราคาแบบนี้ คงไม่มีประโยชน์ที่จะจับรถยนต์ 2 คันนี้มาเปรียบเทียบกัน ดังนั้นขอแจกแจงเฉพาะ นิสสันอัลเมร่าที่บอกตัวเองว่าเป็นโคคาร์ ที่มองกลุ่มลูกค้าที่เลือกซื้อรถด้วยความคุ้มค่าโดยมีเรื่องของราคาเป็นประเด็นหลัก
ลูกค้ากลุ่มนี้ไม่ใช่กลุ่มลูกค้าที่จะซื้อ ฮอนด้าซิตี้ เพราะคนกลุ่มนี้จะบอกว่า แพง!!! อีกทั้งความแรงไม่ใช่สิ่งที่ลูกค้ากลุ่มเดิม (ที่เหนียวแน่น) ของนิสสันอัลเมร่าต้องการ เพราะพวกเค้าต้องการ ความนุ่มนวลในการขับขี่ พื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวาง ดาว์นน้อยผ่อนนาน ส่วนฝั่งฮอนด้าซิตี้ การออกรูปมวยรูปนี้ออกมามองได้ชัดเจนว่าฮอนด้าต้องการสู้กับมาสด้า2 เพื่อทวงบัลลังก์แชมป์ยอดขายคืน ดังนั้นนิสสัน อัลเมร่า จึงไม่ได้เกิดมาเพื่อต่อสู้กับฮอนด้าซิตี้
ในเรื่องของการทดลองขับ จริงๆแล้ว นิสสันอัลเมร่า เทอร์โบคันนี้มีทุกสิ่งให้เหนือความคาดหมาย (เมื่อเทียบด้วยราคา) ความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารให้คะแนนเต็ม10 วัสดุอุปกรณ์ได้ 9 รูปทรงให้ 10 เต็ม เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตรใหม่ รหัส HRA0 3 สูบ 100 แรงม้า แรงบิดถึง 152 นิวตันเมตร (Nm) มีให้ใช้ตั้งแต่ออกตัวที่ 2,400 ถึง 4,000 รอบต่อนาที นั้นเพียงพอจนถึงเหลือเฟือเมื่อใช้ในเมือง ความนุ่มนวลจากช่วงล่างนวลนิ่มสบายก้น
แต่บนความเร็วเดินทางเกิน 120 กิโลเมตร/ชั่วโมงขึ้นไป น้ำหนักพวงมาลัยเบาไปนิด รวมทั้งเสียงจากภายนอกเริ่มดังเข้าห้องโดยสาร ความเร็วที่สามารถเดินคันเร่งไต่ระดับ ตั้งแต่ 140 กิโลเมตร/ชั่วโมงขึ้นไปจะต้องใช้สมาธิมากหน่อย แต่สำหรับใครที่ใจถึงสามารถกดคันเร่งลงไปไต่ถึง 170 กิโลเมตร/ชั่วโมง นะตรงนี้สื่อมวลชนหลายคนตั้งข้อสังเกตว่าทำไมช่วงล่างบนความเร็วสูงสู่คู่แข่งไม่ได้
ข้อสงสัยนี้ตอบง่ายๆว่านิสสันทำได้แต่ถ้าทำแล้วจะขาย นิสสันอัลเมร่า ราคานี้ไม่ได้!!! นิสสันเองก็ไม่ได้ออกมาโต้เถียงกับใครในเรื่องของความแรง แต่ถ่ายทอดคำสั่งไปยังตัวแทนขายในโชว์รูมนิสสันทั่วประเทศแจงให้ลูกค้าของพวกเขาทราบว่า นิสสันอัลเมร่า คืออีโคคาร์บนโครงสร้างตัวถัง บีเซกเมนท์ที่คุ้มค่าคุ้มราคาที่สุดในประเทศไทย…การันตีด้วยยอดจำหน่ายตั้งแต่วันเปิดตัวจนถึงวันนี้มีกว่า 5,000…คันเข้าใจตรงกันนะ?
Review Test Drive Nissan Almera Turbo GALLERY